ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน












สัญญาณ VIP
ทั้งหมด
ทั้งหมด



ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)ค:--
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดุลการค้า (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น GDP Nominal แก้ไขQoQ (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
เยอรมนี การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ยูโรโซน ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน Sentix (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจแห่งชาติค:--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีก Like-For-Like BRC YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีกรวม BRC YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
ออสเตรเลีย อัตราหลัก(ดอกเบี้ยเงินกู้)O/N--
ค: --
ค: --
คำแถลงอัตราของธนาคารกลางออสเตรเลีย
ประธานธนาคารกลางออสเตรเลีย Bullock จัดงานแถลงข่าวนโยบายการเงิน
เยอรมนี อัตราการส่งออก MoM (SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก NFIB (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก อัตราเงินเฟ้อ 12-เดือน (CPI) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก CPI หลัก YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก PPI YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา Redbook ประจำปีการขายปลีกเชิงพาณิชย์รายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ตำแหน่งงานว่างJOLTS (SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ Money Supply ปริมาณเงิน M1 YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ Money Supply ปริมาณเงิน M0 YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ Money Supply ปริมาณเงิน M2 YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การพยากรณ์การผลิตระยะสั้นประจำปีน้ำมัน EIA (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การพยากรณ์การผลิตในปีหน้าก๊าซธรรมชาติ EIA (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การพยากรณ์การผลิตระยะสั้นในปีหน้าน้ำมัน EIA (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
แนวโน้มพลังงานระยะสั้นรายเดือน EIA
สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ API--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่งรายสัปดาห์ API--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ API--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ API--
ค: --
ค: --
เกาหลีใต้ อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดัชนีนอกภาคการผลิต Reuters Tankan (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดัชนีภาคการผลิต Reuters Tankan (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดัชนีราคาสินค้าของวิสาหกิจในประเทศ MoM (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดัชนีราคาสินค้าของวิสาหกิจในประเทศ YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ PPI YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ CPI MoM (พ.ย.)--
ค: --
ค: --


ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
อัปเดตล่าสุด
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด

ไม่มีข้อมูล










นิวยอร์ค--11 ต.ค.--รอยเตอร์
ดอลลาร์/เยนร่วงลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ได้รับการรายงานออกมาในวันพฤหัสบดี ซึ่งรวมถึงตัวเลขที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงานสหรัฐ และราคาผู้บริโภคที่ปรับขึ้นเล็กน้อย โดยตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐปรับขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 2.4% ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2021 หรือต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง หลังจากปรับขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไปอาจขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน และอาจปรับขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังรายงานอีกด้วยว่า ดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานปรับขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 3.3% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับขึ้น 3.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 102.89 ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ 102.88 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 103.17 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 148.56 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยร่วงลงจากระดับปิดตลาดวันพุธที่ 149.29 เยน หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 149.58 เยนในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0935 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี โดยขยับลงจาก 1.0939 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0898 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐพุ่งขึ้น 33,000 ราย สู่ 258,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 230,000 ราย โดยตัวเลขยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานได้รับแรงหนุนบางส่วนมาจากพายุเฮอริเคนเฮลีนและการพักงานในบริษัทโบอิ้ง ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 85.4% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.50-4.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 6-7 พ.ย. และมีโอกาส 14.6% ที่เฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ตามเดิมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 6-7 พ.ย. โดยนักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 0.46% ในช่วงต่อไปในปีนี้
ดอลลาร์/เยนร่วงลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่นายเรียวโซ ฮิมิโนะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวสนับสนุนให้บีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ถ้าหากเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวไปตามที่บีโอเจคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิสร่วงลง 0.45% สู่ 0.856 ฟรังก์สวิสในวันพฤหัสบดี
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลในวันพฤหัสบดีว่า เขายอมรับได้อย่างเต็มที่กับการที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนพ.ย. และเขากล่าวเสริมว่า ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานที่แกว่งตัวผันผวนในระยะนี้อาจจะสนับสนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในเดือนพ.ย.--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;










นิวยอร์ค--19 ก.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแข็งค่าขึ้นในวันพุธ หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% โดยให้เหตุผลว่าเฟดมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% สู่ 4.25-4.50% ในช่วงปลายปีนี้, จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1% ในปี 2025 สู่ 3.25-3.50% ในช่วงปลายปี 2025 และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในปี 2026 สู่ 2.75-3.00% ในช่วงปลายปี 2026 ซึ่งจะถือเป็นจุดต่ำสุดของวัฏจักร ทั้งนี้ ดอลลาร์ร่วงลงในช่วงแรกหลังจากเฟดเผยผลการประชุม แต่ดอลลาร์ลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดจัดงานแถลงข่าว โดยนายพาวเวลล์กล่าวว่า "ผมมองไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ในเศรษฐกิจสหรัฐในตอนนี้ที่บ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย คุณเห็นได้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตในอัตราที่แข็งแกร่ง, อัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และตลาดแรงงานก็ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมาก"
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 101.02 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 100.91 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะ 100.21 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 142.27 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 142.40 เยน
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.1118 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยขยับขึ้นจาก 1.1113 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร
หลังจากเฟดประกาศผลการประชุม นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าก็คาดว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกราว 0.70% ในช่วงต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้ เส้นอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปีกับ 10 ปี ซึ่งถือเป็นมาตรวัดการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ พุ่งขึ้นแตะ 0.1018% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ ซึ่งถือเป็นระดับที่ลาดชันที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2022 หรือลาดชันที่สุดในรอบ 2 ปี และอยู่ที่ 0.0837% ในช่วงท้ายวันพุธ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับขึ้นจาก 3.642% ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 3.687% ในช่วงท้ายวันพุธ
ปอนด์แข็งค่าขึ้นจาก 1.3163 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 1.3214 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ โดยปอนด์ถือเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มจี-10 นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ทั้งนี้ หยวนพุ่งขึ้นแตะ 7.0708 หยวนต่อดอลลาร์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2023 --จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;










โตเกียว--18 ก.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับลงในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากที่เพิ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ในขณะที่เทรดเดอร์รอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะได้รับการประกาศออกมาในเวลา 01.00 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย และรอดูงานแถลงข่าวของเฟดในเวลา 01.30 น.ตามเวลาไทยด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 30% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 35% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 1.17% ในปีนี้
ดอลลาร์/เยนดิ่งลง 0.73% สู่ 141.36 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 139.58 เยนในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023 ส่วนยูโร/ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.13% สู่ 1.1127 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ และเทียบกับจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1.1201 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 26 ส.ค. ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอ่อนค่าลง 0.10% สู่ 100.81 ในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ ปอนด์ขยับขึ้น 0.03% สู่ 1.3165 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.17% สู่ 0.6766 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.27% สู่ 0.6205 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคานม
สำนักงานสำมะโนประชากรในกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.ค. และสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. ส่วนยอดค้าปลีกแบบเทียบรายปีพุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนส.ค. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสสาม ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และปัจจัยบวกนี้ช่วยบดบังยอดขายที่ลดลงในบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐประจำไตรมาสสามหลังจากมีการรายงานตัวเลขยอดค้าปลีก โดยเฟดสาขาแอตแลนตาคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐอาจจะเติบโต 3.0% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบเป็นตัวเลขเต็มปี (annualized) โดยปรับขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.5% และเทียบกับอัตราการเติบโตที่ 3.0% ในไตรมาสสอง
เทรดเดอร์ระบุว่า การแสดงความเห็นของเฟดและขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยนายนาธาน สวามี หัวหน้าฝ่ายการค้าสกุลเงินของธนาคารซิตี้กรุ๊ประบุว่า "ถ้าหากเฟดส่งสัญญาณแบบสายพิราบว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากในอนาคต ปัจจัยดังกล่าวก็น่าจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง" อย่างไรก็ดี ถ้าหากเฟดส่งสัญญาณแบบสายพิราบเป็นอย่างมาก นักลงทุนก็อาจจะกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะตกต่ำลงอย่างรุนแรงเกินคาดในอนาคต และปัจจัยดังกล่าวอาจจะส่งผลลบต่อสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ และสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อขั้นสุดท้ายประจำเดือนส.ค.ของยูโรโซนที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันนี้ แต่นักลงทุนคาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ใกล้เคียงกับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อขั้นต้น
ปอนด์ยังคงพุ่งขึ้นมาแล้วราว 3.46% จากช่วงต้นปีนี้ และส่งผลให้ปอนด์ถือเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มจี-10 ในปีนี้ โดยปอนด์ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอังกฤษ และจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงได้ยากในอังกฤษ ในขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงต่อไปในวันนี้ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 65% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. หลังจากบีโออีเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนส.ค. และนักลงทุนก็คาดว่า มีโอกาส 35% ที่บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย.--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;










นิวยอร์ค--18 ก.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในวันอังคาร หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด และตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งจะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครังแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 เป็นต้นมา หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนก.ค. และสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสสาม ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และปัจจัยบวกนี้ช่วยบดบังยอดขายที่ลดลงในบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 100.91 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยแข็งค่าขึ้นจาก 100.70 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 142.40 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยพุ่งขึ้นจากระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 140.60 เยน
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.1113 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยอ่อนค่าลงจาก 1.1132 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ แต่ยังคงอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1.1201 ดอลลาร์
นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 30% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 35% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ออกมาในวันพุธช่วยสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% เช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพุธว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ +0.3% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า การลงทุนในสต็อกสินค้าคงคลังอาจจะมีส่วนช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสสาม ทางด้านเฟดรายงานในวันอังคารว่า ผลผลิตภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนก.ค. และเทียบกับโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ผลผลิตภาคโรงงานอาจปรับขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนส.ค.
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีแนวโน้มที่จะตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ที่ 0.25% ตามเดิมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันศุกร์นี้ หลังจากบีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ แต่บีโอเจมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้การประชุมของบีโอเจในวันที่ 30-31 ต.ค.กลายเป็นการประชุมที่มีความสำคัญ
ปอนด์ร่วงลงจาก 1.3216 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ สู่ 1.3163 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร แต่ปอนด์ยังคงพุ่งขึ้นมาแล้วราว 3.5% จากช่วงต้นปีนี้ และส่งผลให้ปอนด์ถือเป็นสกุลเงินที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินกลุ่มจี-10 ในปีนี้ โดยปอนด์ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอังกฤษ และจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงได้ยากในอังกฤษ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 65% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. หลังจากบีโออีเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนส.ค. และนักลงทุนก็คาดว่า มีโอกาส 35% ที่บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย.--จบ--
--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;










สิงคโปร์--17 ก.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย และยังคงเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดของปีนี้ ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 67% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 30% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 33% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ทั้งนี้ การคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ได้รับแรงกระตุ้นมาจากรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลและหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ย.ที่ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ยังคงถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเฟด นอกจากนี้ นักลงทุนก็จะรอดูตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของแคนาดาที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงต่อไปในวันนี้ด้วย
ดอลลาร์/เยนขยับขึ้น 0.03% สู่ 140.64 เยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะ 139.58 เยนในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023 หรือจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ส่วนยูโร/ดอลลาร์ขยับลง 0.07% สู่ 1.1124 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 1.1201 ดอลลาร์ในวันที่ 26 ส.ค. ทางด้านดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับขึ้น 0.02% สู่ 100.72 ในช่วงเช้าวันนี้ และเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดของปีนี้ที่ 100.51 ที่เคยทำไว้ในวันที่ 27 ส.ค. ทั้งนี้ ปอนด์ขยับลง 0.07% สู่ 1.3205 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 1.3269 ดอลลาร์ในวันที่ 27 ส.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบราว 2 ปีครึ่ง ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.01% สู่ 0.6751 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 0.70% ในวันจันทร์ ทางด้านดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.10% สู่ 0.6191 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากทะยานขึ้น 0.69% ในวันจันทร์
มีการคาดการณ์กันว่า ถ้าหากดอลลาร์/เยนดิ่งลงผ่านระดับ 140.00 เยน และเคลื่อนตัวอยู่ต่ำกว่าระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ดอลลาร์/เยนก็อาจจะรูดลงต่อไปจนแตะจุดต่ำสุดของเดือนม.ค. 2023 ซึ่งอยู่ที่ 127.215 เยน ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีแนวโน้มที่จะตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ที่ 0.25% ตามเดิมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันศุกร์นี้ หลังจากบีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ แต่บีโอเจมีแนวโน้มที่จะส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้การประชุมของบีโอเจในวันที่ 30-31 ต.ค.กลายเป็นการประชุมที่มีความสำคัญ
นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารแมคควารีระบุว่า "ไม่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.50% ในวันพุธนี้ เราก็คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณแบบสายพิราบในวันพุธนี้" และพวกเขาระบุเสริมว่า "ดอลลาร์สหรัฐอาจจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ ถ้าหากเฟดส่งสัญญาณแบบสายพิราบเป็นอย่างมาก ถึงแม้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% โดยมีแนวโน้มว่าดอลลาร์จะดิ่งลงอย่างรุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับเยน เพราะว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะมีความแตกต่างจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของบีโอเจมากที่สุดในช่วงนี้"
ปอนด์พุ่งขึ้นมาแล้ว 3.9% จากช่วงต้นปีนี้ และส่งผลให้ปอนด์กลายเป็นสกุลเงินในกลุ่มจี-10 ที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ โดยปอนด์ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอังกฤษ และจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงได้ยากในอังกฤษ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 64% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. หลังจากบีโออีเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนส.ค. และนักลงทุนก็คาดว่า มีโอกาส 36% ที่บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 20% ที่เคยคาดไว้ในวันศุกร์--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;










นิวยอร์ค--17 ก.ย.--รอยเตอร์
ดอลลาร์/เยนดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีในระหว่างช่วงการซื้อขายวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 17-18 ก.ย. โดยการคาดการณ์ดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลและหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 67% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นจากระดับราว 15% ที่เคยคาดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว และนักลงทุนก็คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาส 33% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 100.70 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยอ่อนค่าลงจาก 101.10 ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 140.60 เยนในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยปรับลงจากระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 140.82 เยน หลังจากดิ่งลงแตะ 139.58 เยนในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2023
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.1132 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ โดยแข็งค่าขึ้นจาก 1.1076 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดิ่งลงในช่วงนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีร่วงลงจาก 3.649% ในช่วงท้ายวันศุกร์ สู่ 3.621% ในช่วงท้ายวันจันทร์ และดิ่งลงมาแล้วราว 0.30% ภายในเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปีปรับลงจาก 3.576% ในช่วงท้ายวันศุกร์ สู่ 3.555% ในช่วงท้ายวันจันทร์ และดิ่งลงจากระดับราว 3.94% เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
นักลงทุนรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในวันศุกร์ โดยนักลงทุนคาดว่าบีโอเจจะตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ที่ 0.25% ตามเดิม หลังจากบีโอเจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ นายปีเตอร์ คาซิมีร์ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันจันทร์ว่า เกือบจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า อีซีบีจะรอจนกว่าจะถึงการประชุมในวันที่ 12 ธ.ค. ก่อนที่อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง เพื่อที่อีซีบีจะได้มั่นใจว่า อีซีบีไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วจนเกินไป
นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 64% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. หลังจากบีโออีเริ่มต้นวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนส.ค. และนักลงทุนก็คาดว่า มีโอกาส 36% ที่บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 4.75% ในการประชุมวันที่ 19 ก.ย. โดยโอกาสดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 20% ที่เคยคาดไว้ในวันศุกร์ ทั้งนี้ ปอนด์แข็งค่าขึ้นจาก 1.3125 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ สู่ 1.3216 ดลอลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;










เยนทรงตัวที่ระดับสูงสุดของปีนี้ในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชียท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดการเงินญี่ปุ่น, จีนและเกาหลีใต้ปิดทำการเนื่องในวันหยุด ขณะที่นักลงทุนพิจารณาอัตราการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอนในสัปดาห์นี้
ดอลลาร์ทรงตัวที่ 140.86 เยน ใกล้เคียงระดับปิดเมื่อวันศุกร์ และใกล้ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.ที่ 104.285 เยนที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ และดอลลาร์อ่อนค่า 1.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ยูโรแข็งค่า 0.11% มาที่ 1.1088 ต่อดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.1% มาที่ระดับ 101
ตลาดกำลังรอดูการประชุมของเฟดระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะประกาศมติการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ตามลำดับ และเครื่องมือเฟดวอทช์ของซีเอ็มอีพบว่า เทรดเดอร์สัญญาล่วงหน้าปรับตัวรับโอกาส 52% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% และสัญญาล่วงหน้าสะท้อนว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยรวม 1.25% ในปีนี้
นักลงทุนคาดว่าบีโอเจจะคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นที่ 0.25% ขณะที่กรรมการบีโอเจระบุว่า พวกเขาต้องการเห็นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น และส่วนต่างที่แคบลงระหว่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสกุลเงินสำคัญอื่นๆทำให้เยนแข็งค่าขึ้น และทำให้มีการระบายการทำ carry trade ด้วยเงินเยนคิดเป็นมูลค่านับพันล้านดอลลาร์แล้ว
ญี่ปุ่นจะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ขณะที่นายซานาเอะ ทาคาอิชิ ผู้สมัครกล่าวว่า บีโอเจควรชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวต่อไป--จบ--
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน