• การซื้อขาย
  • ตลาด
  • คัดลอก
  • การแข่งขัน
  • ข่าวสาร
  • 24x7
  • ปฏิทิน
  • Q&A
  • แชท
ยอดนิยม
ตัวกรอง
สินทรัพย์
ล่าสุด
ราคาขาย
ราคาซื้อ
สูงสุด
ต่ำสุด
เปลี่ยน
% เปลี่ยน
สเปรด
SPX
S&P 500 Index
6877.08
6877.08
6877.08
6895.79
6866.57
+19.96
+ 0.29%
--
DJI
Dow Jones Industrial Average
47997.15
47997.15
47997.15
48133.54
47873.62
+146.22
+ 0.31%
--
IXIC
NASDAQ Composite Index
23573.41
23573.41
23573.41
23680.03
23528.85
+68.28
+ 0.29%
--
USDX
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ
98.950
99.030
98.950
99.000
98.740
-0.030
-0.03%
--
EURUSD
ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ
1.16409
1.16419
1.16409
1.16715
1.16408
-0.00036
-0.03%
--
GBPUSD
ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ
1.33310
1.33318
1.33310
1.33622
1.33165
+0.00039
+ 0.03%
--
XAUUSD
Gold / US Dollar
4236.63
4236.97
4236.63
4259.16
4194.54
+29.46
+ 0.70%
--
WTI
Light Sweet Crude Oil
60.057
60.087
60.057
60.236
59.187
+0.674
+ 1.14%
--

บัญชีชุมชน

บัญชีสัญญาณ (อัน)
--
บัญชีกำไร (อัน)
--
บัญชีขาดทุน (อัน)
--
ดูเพิ่มเติม

มาเป็นผู้ให้สัญญาณ

ขายสัญญาณและรับรายได้

ดูเพิ่มเติม

คู่มือการคัดลอกการซื้อขาย

เริ่มต้นง่ายๆ

ดูเพิ่มเติม

สัญญาณ VIP

ทั้งหมด

ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • กำไร/ขาดทุนที่ดีที่สุด
  • MDD ที่ดีที่สุด
1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 เดือนที่ผ่านมา
  • 1 ปีที่ผ่านมา

ทั้งหมด

  • ทั้งหมด
  • อัปเดตทรัมป์
  • แนะนำ
  • หุ้น
  • สกุลเงินดิจิทัล
  • ธนาคารกลาง
  • ข่าวเด่น
ดูข่าวเด่นเท่านั้น
แชร์

กระทรวงการคลังสวิสเผยยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย UBS ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

แชร์

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเอเธนส์ปิดที่ 2,104.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.04% ในสัปดาห์นี้

แชร์

ราคาโกโก้ล่วงหน้าของ ICE นิวยอร์กพุ่งขึ้นมากกว่า 3% สู่ระดับ 5,661 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน

แชร์

ดัชนีหุ้นอ้างอิงของบราซิล Bovespa .Bvsp พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลใหม่ ทะลุ 165,000 จุดเป็นครั้งแรก

แชร์

ราคาเงินล่วงหน้าของนิวยอร์กพุ่งขึ้น 4.00% สู่ระดับ 59.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันนี้

แชร์

ราคาเงินแตะระดับ 59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล และเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในปีนี้

แชร์

ราคาทองคำแตะระดับ 4,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในวันนี้

แชร์

ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent ยังคงปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสั้นๆ โดยราคาน้ำมันดิบ WTI แตะที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในวันนั้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นประมาณ 0.8%

แชร์

SEBI ของอินเดีย: Sandip Pradhan เข้ารับตำแหน่งสมาชิกเต็มเวลา

แชร์

ราคาเงินสปอตพุ่งขึ้น 3% สู่ระดับ 58.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์

การสำรวจพบว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ยังคงอยู่สูงกว่า 29 ล้านบาร์เรลต่อวันเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน

แชร์

จากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ ระบุว่า SoftBank Group ของญี่ปุ่นกำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อบริษัทการลงทุน Digitalbridge

แชร์

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนี Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 0.8% และดัชนีเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 2.1%

แชร์

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ลดการขาดทุนหลังข้อมูล ล่าสุดลดลง 0.09% อยู่ที่ 98.98

แชร์

ยูโรเพิ่มขึ้น 0.02% ที่ 1.1647 ดอลลาร์

แชร์

ดอลลาร์/เยน ขึ้น 0.12% ที่ 155.3

แชร์

เงินปอนด์ขึ้น 0.14% ที่ 1.3346 ดอลลาร์

แชร์

ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังข้อมูล Pce ของสหรัฐฯ ล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับ 4,241.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์

S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.35%, Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.38%, Dow เพิ่มขึ้น 0.42%

แชร์

ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่แท้จริงของสหรัฐฯ (Pce) เพิ่มขึ้น 0% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนกันยายน เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.1% และตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ 0.4%

เวลา
ค่าจริง
คาดการณ์
ครั้งก่อน
สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax YoY (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส บัญชีเดินสะพัด (Not SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

อิตาลี ดัชนียอดค้าปลีก MoM (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน GDP Final YoY (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน GDP Final QoQ (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงาน QoQ (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงานสุดท้าย (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --
บราซิล PPI MoM (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา เงินเฟ้อเบื้องต้น UMich 5-YearYoY (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีสถานภาพเบื้องต้น UMich ปัจจุบัน (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น UMich (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่วงหน้า 1 ปี UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความคาดหวังผู้บริโภค UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ค่าจ้าง MoM (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดุลการค้า (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น GDP Nominal แก้ไขQoQ (ไตรมาส 3)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดุลการค้า (SA)(ข้อมูลศุลกากร) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น GDP ประจำปี (แก้ไข) QoQ (ไตรมาส 3)

--

ค: --

ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

เยอรมนี การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
    • ทั้งหมด
    • ห้องสนทนา
    • กลุ่ม
    • เพื่อน
    กำลังเชื่อมต่อกับห้องสนทนา
    .
    .
    .
    พิมพ์ที่นี่...
    เพิ่มชื่อสินทรัพย์หรือรหัส

      ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน

      ทั้งหมด
      อัปเดตทรัมป์
      แนะนำ
      หุ้น
      สกุลเงินดิจิทัล
      ธนาคารกลาง
      ข่าวเด่น
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      ค้นหา
      ผลิตภัณฑ์

      กราฟ ฟรีตลอดไป

      แชท Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
      ตัวกรอง ปฏิทินเศรษฐกิจ ข้อมูล เครื่องมือ
      สมาชิก ฟีเจอร์
      ศูนย์ข้อมูล แนวโน้มของตลาด ข้อมูลสถาบัน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เศรษฐกิจมหภาค

      แนวโน้มของตลาด

      ความเชื่อมั่น รายการคำสั่งซื้อขาย ความสัมพันธ์ในตลาดฟอเร็กซ์

      ตัวชี้วัดยอดนิยม

      กราฟ ฟรีตลอดไป
      ตลาด

      ข่าวสาร

      ข่าวสาร การวิเคราะห์ 24x7 คอลัมน์ แหล่งเรียนรู้
      ทัศนคติสถาบัน ทัศนคตินักวิเคราะห์
      หัวข้อคอลัมน์ คอลัมนิสต์

      ทัศนคติล่าสุด

      ทัศนคติล่าสุด

      หัวข้อยอดนิยม

      คอลัมนิสต์ยอดนิยม

      อัปเดตล่าสุด

      สัญญาณ

      คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
      การแข่งขัน
      Brokers

      ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
      รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
      Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
      เพิ่มเติม

      สำหรับธุรกิจ
      กิจกรรม
      รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

      ไวท์เลเบล

      Data API

      ปลั๊กอินเว็บไซต์

      โครงการพันธมิตร

      รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
      เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
      Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
      การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView
      การค้นหาเมื่อเร็วๆนี้
        คำศัพท์ที่ยอดนิยม
          ตลาด
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          ผู้ใช้
          24x7
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          แหล่งเรียนรู้
          ข้อมูล
          • ชื่อ
          • ค่าล่าสุด
          • ครั้งก่อน

          ดูผลการค้นหาทั้งหมด

          ไม่มีข้อมูล

          สแกน ดาวน์โหลด

          Faster Charts, Chat Faster!

          ดาวน์โหลดแอป
          • English
          • Español
          • العربية
          • Bahasa Indonesia
          • Bahasa Melayu
          • Tiếng Việt
          • ภาษาไทย
          • Français
          • Italiano
          • Türkçe
          • Русский язык
          • 简中
          • 繁中
          เปิดบัญชี
          ค้นหา
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ ฟรีตลอดไป
          ตลาด
          ข่าวสาร
          สัญญาณ

          คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
          การแข่งขัน
          Brokers

          ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
          รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
          Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
          เพิ่มเติม

          สำหรับธุรกิจ
          กิจกรรม
          รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          โครงการพันธมิตร

          รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
          เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
          Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
          การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์ปรับขึ้นแต่ S&P,Nasdaq ขยับลง

          Reuters
          Goldman Sachs
          +1.49%
          Alibaba
          +0.65%
          Boeing
          -0.04%
          Union Pacific
          +0.30%
          Snap Inc.
          +2.64%

          นิวยอร์ค--27 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้น แต่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 16 ปี และถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 ในการประชุม 12 ครั้งที่ผ่านมา โดยเฟดให้เหตุผลว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง และแถลงการณ์ของเฟดเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก ทางด้านนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวในงานแถลงข่าวว่า เฟดจะตัดสินใจในการประชุมแต่ละครั้งไป และเฟดจะจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่า แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ทั้งนี้ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า แถลงการณ์ของเฟดไม่ได้บ่งชี้ว่า เฟดจะชะลอความเร็วในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคต แต่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.23% สู่ 35,520.12 ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน และระยะ 13 วันนี้ถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 ทางด้านดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 0.02% สู่ 4,566.75 ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดปรับลง 0.12% สู่ 14,127.28 ในวันพุธ ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนในวันพุธจากหุ้นโบอิ้งซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินที่พุ่งขึ้น 8.72% หลังจากโบอิ้งรายงานยอดขาดทุนรายไตรมาสที่น้อยเกินคาด และระบุว่ากระแสเงินสดพุ่งสูง

          • นายเบรนท์ ชูทเทอ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทนอร์ธเวสเทิร์น มิวชวล เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า นายพาวเวลล์ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า เฟดจะรอดูตัวเลขเศรษฐกิจก่อนจะตัดสินใจครั้งใหม่ และนายชูทเทอกล่าวเสริมว่า "ผมคิดว่าเฟดจะไม่ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าค่าแรงจะชะลอการปรับขึ้น"

          • หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวอย่างไร้ทิศทางชัดเจนในวันพุธ โดยหุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลง 3.72% หลังจากไมโครซอฟท์เปิดเผยแผนการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อตอบรับต่ออุปสงค์ในบริการใหม่ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และไมโครซอฟท์รายงานรายได้และผลกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาดด้วย ทางด้านหุ้นแอลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลพุ่งขึ้น 5.78% หลังจากแอลฟาเบทรายงานว่า ผลกำไรไตรมาสสองอยู่สูงกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในบริการคลาวด์และจากยอดโฆษณาที่ฟื้นตัว ทั้งนี้ ดัชนี NYSE FANG+ ซึ่งครอบคลุมบริษัทขนาดยักษ์หลายแห่งในกลุ่มเติบโตร่วงลง 0.72% ในวันพุธ แต่ดัชนีพุ่งขึ้นมาแล้ว 75% จากช่วงต้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสความนิยมใน AI และจากความคาดหวังที่ว่า วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

          • บริษัท 152 แห่งในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาแล้ว และบริษัท 77.6% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด ทั้งนี้ หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 1.39% หลังจากธุรกิจคลาวด์ของบริษัทอาลีบาบาประกาศว่า ทางบริษัทจะสนับสนุน Llama ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพนซอร์ซของเมตา ทางด้านหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โกพุ่งขึ้น 2.11% ในวันพุธ หลังจากคณะผู้บริหารของเวลส์ ฟาร์โกอนุมัติโครงการซื้อคืนหุ้นขนาด 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์--จบ--

          Eikon source text

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐปรับขึ้นขณะตลาดจับตาผลประกอบการ

          Reuters
          Citizens Financial
          +0.02%
          M&T Bank
          +0.14%
          Verizon
          +1.77%
          Goldman Sachs
          +1.49%
          AT&T
          +0.81%

          นิวยอร์ค--20 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันพุธ ในขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.70% ในวันพุธ ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 8 ในช่วง 9 วันทำการที่ผ่านมา ทั้งนี้ หุ้นธนาคารโกลด์แมน แซคส์บวกขึ้น 0.97% ในวันพุธ หลังจากโกลด์แมน แซคส์รายงานว่า ผลกำไรปรับลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 ปี แต่นายเดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์แสดงความเห็นในทางบวกต่อสัญญาณการฟื้นตัวของแผนกวาณิชธนกิจ ซึ่งเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับความเห็นของธนาคารขนาดใหญ่แห่งอื่น ๆ ในวันอังคารที่ผ่านมา

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.31% สู่ 35,061.21 ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน และระยะ 8 วันนี้ถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2019 หรือนานที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ทางด้านดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น 0.24% สู่ 4,565.72 และดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 0.03% สู่ 14,358.02 ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq ขยับขึ้นได้น้อยมาก เพราะว่าดัชนีได้รับแรงกดดันจากหุ้นไมโครซอฟท์ที่ดิ่งลง 1.23% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทแอปเปิลกำลังพัฒนาบริการด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทางด้านหุ้นเอ็นวิเดียร่วงลง 0.88% และหุ้นแอลฟาเบทดิ่งลง 1.40% ส่วนหุ้นแอปเปิลบวกขึ้น 0.71%

          • ดัชนี KBW สำหรับหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.90% มาปิดตลาดที่ 99.04 ในวันพุธ ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของวิกฤติภาคธนาคาร และถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่หุ้นธนาคารซิติเซนส์ ไฟแนนเชียลทะยานขึ้น 6.39% และหุ้นเอ็มแอนด์ที แบงก์พุ่งขึ้น 2.48% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งนี้เปิดเผยผลกำไรไตรมาสสองที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ หุ้นยูเอส แบงคอร์ปซึ่งเป็นธนาคารที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองมินนิอาโปลิสก็พุ่งขึ้น 6.46% หลังจากยูเอส แบงคอร์ปรายงานว่า รายได้ดอกเบี้ยสุทธิพุ่งขึ้น 28% ในไตรมาสล่าสุด

          • นักลงทุนคาดการณ์ในช่วงนี้ว่า ผลกำไรของบริษัทสหรัฐอาจดิ่งลง 8.2% ในไตรมาสสอง หลังจากที่เคยคาดการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ค.ว่า ผลกำไรอาจปรับลดลงเพียง 5.7% ในไตรมาสสอง ทั้งนี้ หลังจากตลาดหุ้นปิดทำการในวันพุธ เทสลาซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็รายงานว่า อัตราผลกำไรขั้นต้นปรับลดลงในไตรมาสสองเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก โดยอัตราผลกำไรขั้นต้นปรับลดลงสู่ 18.2% ในไตรมาสสอง ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 16 ไตรมาส

          • หลังจากตลาดหุ้นปิดทำการในวันพุธ บริษัทเน็ตฟลิกซ์ได้รายงานผลกำไรที่ดีเกินคาด โดยผลกำไรต่อหุ้นปรับลดของเน็ตฟลิกซ์อยู่ที่ 3.29 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสสอง ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.86 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เน็ตฟลิกซ์รายงานว่า รายได้ปรับขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี สู่ 8.2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสอง ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 8.3 พันล้านดลอลาร์ และเน็ตฟลิกซ์คาดว่า รายได้ในไตรมาสสามจะอยู่ที่ระดับ 8.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 8.7 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ หุ้นเอทีแอนด์ทีซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมปิดพุ่งขึ้น 8.48% หลังจากเอทีแอนด์ทีประกาศว่า ทางบริษัทไม่ได้วางแผนที่จะถอนสายเคเบิลตะกั่วออกจากทะเลสาบทาโฮในทันที โดยทางบริษัทจะรอผลการวิเคราะห์เพิ่มเติมก่อน ทางด้านหุ้นเวริซอนในกลุ่มโทรคมนาคมทะยานขึ้น 5.27%--จบ--

          Eikon source text

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          USA:โกลด์แมน แซคส์ลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

          Reuters
          Goldman Sachs
          +1.49%
          • นายแจน ฮัตซิอุซ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ธนาคารลดความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะเริ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลงสู่ระดับ 20% จาก 25% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

          • เขาระบุในรายงานวิจัยว่า "เหตุผลหลักที่เราลดความเป็นไปได้ลงมาก็คือข้อมูลล่าสุดตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราที่ว่า การทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับที่ยอมรับได้นั้นจะไม่ต้องการภาวะถดถอย" ขณะเดียวกัน กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวไว แม้ต้นทุนการกู้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มมาตรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2022 ก็ตาม

          • "เราคาดว่าจะมีการชะลอตัวลงอีกในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะรายได้ส่วนบุคคลสุทธิแท้จริงที่ชะลอตัวลงตามลำดับ และผลกระทบจากการให้สินเชื่อภาคธนาคารที่ลดลง" แต่เขาก็คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวต่อไป แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าแนวโน้ม

          • ในส่วนของการพลิกกลับด้านของเส้นโค้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะถดถอยที่ใกล้จะเกิดขึ้น เขากล่าวว่า นั่นสะท้อน และยืนยันการคาดการณ์เศรษฐกิจ "ที่เป็นการคาดการณ์ในแง่ลบมากเกินไป"

          • เส้นโค้งอัตราผลตอบแทนที่พลิกกลับด้านบ่งชี้ถึงการคาดการณ์ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี มีแนวทางที่เป็นไปได้ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเพราะอัตราเงินเฟ้อลดลง และมีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเขาคาดว่า จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงินในขณะนี้--จบ--

          Eikon source text

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          USA:คาดแบงก์ใหญ่สหรัฐรายงานผลกำไรสูงขึ้นใน Q2 เพราะดบ.สูงขึ้น

          Reuters
          Morgan Stanley
          +0.95%
          Bank of America
          +0.69%
          Wells Fargo & Co.
          +0.19%
          Citigroup
          +0.87%
          JPMorgan
          -0.05%

          นิวยอร์ค--12 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐจะเริ่มต้นรายงานผลกำไรไตรมาสสองในเร็ว ๆ นี้ โดยธนาคารเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกมีกำหนดจะรายงานผลกำไรไตรมาส 2 ในวันที่ 14 ก.ค., แบงก์ ออฟ อเมริกาและมอร์แกน สแตนเลย์มีกำหนดจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 18 ก.ค. ส่วนโกลด์แมน แซคส์จะประกาศผลประกอบการในวันที่ 19 ก.ค. ทางด้านนักลงทุนคาดว่าธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐจะรายงานตัวเลขผลกำไรไตรมาสสองที่สูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยรับที่สูงขึ้น และปัจจัยบวกดังกล่าวจะช่วยชดเชยยอดการทำข้อตกลงทางธุรกิจที่ปรับลดลง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ในส่วนของธนาคารที่ให้บริการแบบครบวงจรนั้น ธนาคารเจพีมอร์แกนและธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ซึ่งให้บริการแก่ทั้งภาคเอกชนและผู้บริโภครายย่อย มีแนวโน้มที่จะมีผลกำไรต่อหุ้น (EPS) พุ่งขึ้นกว่า 40% ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกามีแนวโน้มที่จะมี EPS ทะยานขึ้นกว่า 7% แต่ซิตี้กรุ๊ปมีแนวโน้มที่จะมี EPS ดิ่งลง 43%

          • ในส่วนของวาณิชธนกิจขนาดใหญ่นั้น นักวิเคราะห์คาดว่า โกลด์แมน แซคส์มีแนวโน้มที่จะมี EPS ดิ่งลงเกือบ 59% ส่วนมอร์แกน สแตนเลย์มีแนวโน้มที่จะมี EPS รูดลง 9% อย่างไรก็ดี รายได้จากแผนกบริหารความมั่งคั่งมีแนวโน้มที่จะช่วยชดเชยความอ่อนแอของรายได้จากการทำข้อตกลงทางธุรกิจ ทั้งนี้ นายเดวิด คอนราด นักวิเคราะห์ของบริษัทคีฟ, บรูย์เอทท์ แอนด์ วูดส์กล่าวว่า ธนาคารที่ให้บริการแบบครบวงจรได้รับแรงหนุนจากผู้บริโภคสหรัฐที่ยังคงใช้จ่ายเงินจำนวนมาก และยังคงมีฐานะการเงินที่ดี โดยปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยชดเชยความอ่อนแอในแผนกวาณิชธนกิจ ในขณะที่รายได้ด้านวาณิชธนกิจได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

          • นายสตีเฟน บิกการ์ นักวิเคราะห์ของบริษัทอาร์กัส รีเสิร์ชกล่าวว่า "โกลด์แมน แซคส์จะมีผลประกอบการย่ำแย่อีกครั้งในส่วนของวาณิชธนกิจในไตรมาสสอง ในขณะที่ธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ในภาวะเฉื่อยชา เนื่องจากความผันผวนปรับลดลง" โดยโกลด์แมน แซคส์อาจจะปรับลดมูลค่าทางบัญชีสำหรับธุรกิจด้านผู้บริโภคลงด้วย ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัทดีลโลจิกระบุว่า กิจกรรมด้านวาณิชธนกิจทั่วโลกดิ่งลงสู่ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสสอง ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2012

          • ผู้บริหารภาคธนาคารปรับลดการคาดการณ์สำหรับไตรมาสสองลง หลังจากกิจกรรมการควบรวมกิจการและการออกจำหน่ายหุ้นกู้ดิ่งลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ผู้บริหารบางรายระบุว่ากิจกรรมการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (IPO) เริ่มฟื้นตัวขึ้น และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าตลาดตราสารทุนอาจจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น ธนาคารก็มักจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้าที่มากู้เงิน อย่างไรก็ดี ความต้องการกู้เงินชะลอตัวลงในช่วงนี้ และธนาคารก็จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นให้แก่ผู้บริโภคที่นำเงินมาฝากไว้กับธนาคาร

          • นักวิเคราะห์ของ KBW ระบุว่า ปริมาณเงินฝากในธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐดิ่งลง 1.41 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสสอง หลังจากที่เคยมีเงินฝากจำนวนมากไหลเข้าสู่ธนาคารขนาดใหญ่ในไตรมาสแรก เนื่องจากลูกค้าต้องการฝากเงินในสถานที่ปลอดภัยในช่วงนั้น หลังจากธนาคารระดับภูมิภาคบางแห่งในสหรัฐถูกสั่งปิดกิจการ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐดิ่งลงมาแล้ว 9.3% จากช่วงต้นปีนี้ ซึ่งสวนทางกับดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้น 14.6% จากช่วงต้นปีนี้--จบ--

          Eikon source text

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐร่วงลงหลังสหรัฐเผยการจ้างงานอ่อนแอ

          Reuters
          Alibaba
          +0.65%
          Levi Strauss & Co.
          +0.77%
          Rivian Automotive
          +0.97%

          นิวยอร์ค--10 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันศุกร์ หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับรายงานการจ้างงานประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ และนักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจใหม่และผลประกอบการภาคเอกชนที่จะได้รับการรายงานออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐปรับขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2020 หรือต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 225,000 ตำแหน่ง โดยทางกระทรวงได้ปรับทบทวนตัวเลขตำแหน่งงานใหม่ในเดือนเม.ย.และพ.ค.ลงจากเดิม 110,000 ตำแหน่งด้วย นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังระบุอีกด้วยว่า จำนวนผู้ที่ทำงานพาร์ทไทม์เพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจพุ่งขึ้น 452,000 ราย สู่ 4.2 ล้านราย และสิ่งนี้บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลง อย่างไรก็ดี รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของคนงานสหรัฐปรับขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. และค่าแรงแบบเทียบรายปีพุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนมิ.ย. และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.55% สู่ 33,734.88, ดัชนี S&P 500 ปิดปรับลง 0.29% สู่ 4,398.95 และดัชนี Nasdaq ปิดขยับลง 0.13% สู่ 13,660.72 ในวันศุกร์ ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้ดิ่งลง 2%, ดัชนี S&P 500 รูดลงราว 1.2% ในสัปดาห์นี้ และดัชนี Nasdaq ปรับลงราว 0.9% ในสัปดาห์นี้

          • หุ้นกลุ่มปลอดภัยดิ่งลงในวันศุกร์ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นรูดลง 1.3% อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.1% และดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุบวกขึ้น 0.9% ทางด้านดัชนี Russell 2000 สำหรับหุ้นบริษัทขนาดเล็กของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.2% ในวันศุกร์ ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. เนื่องจากการจ้างงานในสหรัฐยังคงเติบโตเร็วกว่าอัตราที่เคยทำไว้ในช่วง 10 ปีก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาด โดยนักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาส 11.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และมีโอกาส 88.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.

          • นายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับผู้กำหนดนโยบายคนอื่น ๆ ของเฟดในประเด็นที่ว่า เฟดจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่อยู่สูงเกินไป

          • หุ้นลีวาย สเตราส์ แอนด์ โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดยีนส์ดิ่งลง 7.7% หลังจากลีวายปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรประจำปี ทั้งนี้ หุ้นริเวียน ออโตโมทีฟ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งขึ้น 14.2% หลังจากริเวียนรายงานยอดจัดส่งรถยนต์รายไตรมาสที่ดีเกินคาด--จบ--

          Eikon source text

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          UK:ปอนด์ร่วงลงขณะตลาดคาดศก.อังกฤษจะถดถอยหลัง BOE ขึ้นดบ.

          Reuters
          Barclays
          -0.49%
          Blackrock
          +0.07%
          Goldman Sachs
          +1.49%

          ลอนดอน--23 มิ.ย.--รอยเตอร์

          • ปอนด์พุ่งขึ้นแตะ 1.2845 ดอลลาร์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ซึ่งใกล้กับจุดสูงสุดรอบ 14 เดือนที่ 1.2849 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันที่ 16 มิ.ย. หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) โหวตด้วยคะแนนเสียง 7-2 เพื่อให้บีโออีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ 5% ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 และถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 13 ติดต่อกัน โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ด้วย อย่างไรก็ดี ปอนด์ร่วงลง 0.42% สู่ 1.2695 ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ท่ามกลางความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจอังกฤษอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และปอนด์มีแนวโน้มว่าอาจจะปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลงราว 1% จากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากปอนด์เพิ่งปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกมาได้นาน 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งแกร่งเกินคาดของบีโออีในวันพฤหัสบดีส่งผลให้นักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษ และความกังวลดังกล่าวก็ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงปอนด์ และกลับเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ หลังจากราคาพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษดิ่งลงในช่วงที่ผ่านมา

          • บีโออีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานในวันพุธว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในราคาผู้บริโภคของอังกฤษอยู่ที่ 8.7% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเท่ากับระดับในเดือนเม.ย. แต่อยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 8.4% สำหรับเดือนพ.ค. ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหาร, พลังงาน, เหล้า และบุหรี่ พุ่งขึ้นจาก 6.8% ในเดือนเม.ย. สู่ 7.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1992 ทางด้านนักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยอังกฤษอาจจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรที่ระดับใกล้ 6% ในช่วงต้นปี 2024 ทั้งนี้ การคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษเคยช่วยหนุนปอนด์ให้แข็งค่าขึ้นในเดือนนี้ โดยปอนด์/ยูโรปรับขึ้น 0.3% สู่ 1.1668 ยูโรในวันนี้ หลังจากเพิ่งพุ่งขึ้นแตะ 1.1736 ยูโรในวันที่ 19 มิ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 10 เดือน

          • ธนาคารโกลด์แมน แซคส์, ยูบีเอส, แบงก์ ออฟ อเมริกา และบาร์เคลย์สคาดการณ์ว่า การแข็งค่าของปอนด์ในช่วงนี้อาจจะยังคงดำเนินต่อไป โดยนายไมเคิล คาฮิลล์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนสกุลเงินจี-10 ในโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า "แนวโน้มด้านการบริโภคในอังกฤษอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าเดิมเป็นอย่างมาก" โดยเป็นผลจากการดิ่งลงของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะนี้ นอกจากนี้ ดัชนีปอนด์ที่มีการถ่วงน้ำหนักทางการค้าของโกลด์แมน แซคส์ยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่า ปอนด์กำลังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 หากเทียบกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้าสำคัญ อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางรายกังวลว่า ปอนด์อาจจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วยเช่นกัน โดยนายเอียน ทิว จากธนาคารบาร์เคลย์สระบุว่า "ถ้าหากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษเริ่มส่งผลลบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปอนด์ก็อาจจะอ่อนค่าลง"

          • นายฮูว เดวีส์ ผู้จัดการตราสารหนี้ในบริษัทจูปิเตอร์ แอสเซท แมเนจเมนท์ ไม่ได้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเขากล่าวว่า การที่เศรษฐกิจอังกฤษยังคงเติบโตอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นเหตุผลสนับสนุนให้นักลงทุน "ถือครองสถานะขายเล็กน้อยในพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ แต่ถือครองสถานะซื้อในปอนด์"

          • การคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอังกฤษส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษประเภทอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นแตะ 5.124% เมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 15 ปี และอยู่ที่ 5.059% ในวันนี้ ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษประเภทอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 4.355% ในวันนี้ โดยการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติ และสะท้อนให้เห็นถึงการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า บีโออีอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลง ทั้งนี้ นักลงทุนทั่วโลกมองว่าการลงทุนในอังกฤษมีความเสี่ยงสูงในช่วงนี้ โดยเป็นผลจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงินอังกฤษในปีที่แล้วเพราะวิกฤติงบประมาณ, การที่อังกฤษเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไปแล้ว 3 คนนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา และการที่อังกฤษจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า--จบ--

          Eikon source text

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ตัวเลขศก.หนุนหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น

          Reuters
          Kohl's Corp.
          +0.84%
          The Kroger
          +0.71%
          JD.com
          +1.18%
          Alibaba
          +0.65%

          นิวยอร์ค--16 มิ.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี ในขณะที่สหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวในวันพฤหัสบดี และตัวเลขดังกล่าวช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐปรับขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. และสวนทางกับโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ 262,0000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 249,000 ราย นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังรายงานอีกด้วยว่า ราคานำเข้าในสหรัฐดิ่งลง 5.9% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2020 หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี หลังจากรูดลง 4.9% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี โดยราคานำเข้าดิ่งลงมาแล้ว 4 เดือนติดต่อกัน และรายงานตัวเลขนี้ช่วยลดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทะยานขึ้น 1.26% สู่ 34,408.06, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 1.22% สู่ 4,425.84 ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 14 เดือน และดัชนีพุ่งขึ้นมาแล้ว 15% จากช่วงต้นปี 2023 ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 1.15% สู่ 13,782.82 ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 14 เดือน และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นมาแล้วราว 32% จากช่วงต้นปี 2023 โดยดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 4% จากช่วงต้นสัปดาห์นี้ด้วย ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนในปีนี้จากสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ, จากผลประกอบการภาคเอกชนที่ดีเกินคาด และจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐใกล้จะแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรแล้ว ทั้งนี้ หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวกในวันพฤหัสบดี โดยดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์พุ่งขึ้น 1.55% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มบริการการสื่อสารทะยานขึ้น 1.54% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากเป็นอันดับสอง

          • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาในช่วงนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง และช่วยลดความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยปัจจัยดังกล่าวมีส่วนกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วงลงด้วย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับลงจาก 3.798% ในช่วงท้ายวันพุธ สู่ 3.728% ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ก็ส่งผลบวกต่อหุ้นเติบโต ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 1.1% ในวันพฤหัสบดี ส่วนหุ้นไมโครซอฟท์ทะยานขึ้น 3.2% สู่สถิติระดับปิดสูงสุดใหม่ โดยทำลายสถิติระดับปิดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในเดือนพ.ย. 2021

          • เทรดเดอร์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาสราว 33.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และมีโอกาสราว 66.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้

          • หุ้นโครเกอร์ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกดิ่งลง 2.7% หลังจากโครเกอร์เปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกที่ต่ำเกินคาด ทั้งนี้ หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ซึ่งรวมถึงหุ้นอาลีบาบา กรุ๊ปที่ทะยานขึ้น 3.2% และหุ้นเจดีดอทคอมที่พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นโยบายระยะกลางเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนในวันพฤหัสบดี โดยธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลางอายุ 1 ปี (MLF) วงเงิน 2.37 แสนล้านหยวน(3.309 หมื่นล้านดอลลาร์) ให้แก่สถาบันการเงินบางแห่งลง 0.10% สู่ระดับ 2.65% ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดไว้--จบ--

          Eikon source text

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์
          FastBull
          ลิขสิทธิ์ © 2025 FastBull Ltd

          728 RM B 7/F GEE LOK IND BLDG NO 34 HUNG TO RD KWUN TONG KLN HONG KONG

          TelegramInstagramTwitterfacebooklinkedin
          App Store Google Play Google Play
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ

          แชท

          Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
          ตัวกรอง
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          ข้อมูล
          เครื่องมือ
          สมาชิก
          ฟีเจอร์
          ฟังก์ชั่น
          ตลาด
          ธุรกรรมคัดลอก
          สัญญาณล่าสุด
          การแข่งขัน
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          24x7
          คอลัมน์
          แหล่งเรียนรู้
          บริษัท
          รับสมัครงาน
          เกี่ยวกับเรา
          ติดต่อเรา
          การลงโฆษณา
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          ข้อเสนอแนะ
          ข้อตกลงผู้ใช้
          นโยบายความเป็นส่วนตัว
          สำหรับธุรกิจ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์

          โครงการพันธมิตร

          การเปิดเผยความเสี่ยง

          ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ

          ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ

          หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน

          ไม่ได้ล็อกอิน

          เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

          สมาชิก FastBull

          ยังไม่ได้เปิด

          สมัคร

          มาเป็นผู้ให้สัญญาณ
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          บริการลูกค้า
          โหมดมืด
          สีขึ้นและลง

          เข้าสู่ระบบ

          ลงทะเบียน

          แถบข้าง
          เลย์เอาท์
          เต็มหน้าจอ
          ตั้งค่าเริ่มต้นเป็นกราฟ
          หน้ากราฟจะเปิดขึ้นตามค่าเริ่มต้นเมื่อคุณเข้า fastbull.com