• การซื้อขาย
  • ตลาด
  • คัดลอก
  • การแข่งขัน
  • ข่าวสาร
  • 24x7
  • ปฏิทิน
  • Q&A
  • แชท
ยอดนิยม
ตัวกรอง
สินทรัพย์
ล่าสุด
ราคาขาย
ราคาซื้อ
สูงสุด
ต่ำสุด
เปลี่ยน
% เปลี่ยน
สเปรด
SPX
S&P 500 Index
6869.21
6869.21
6869.21
6895.79
6866.57
+12.09
+ 0.18%
--
DJI
Dow Jones Industrial Average
47935.92
47935.92
47935.92
48133.54
47873.62
+84.99
+ 0.18%
--
IXIC
NASDAQ Composite Index
23536.06
23536.06
23536.06
23680.03
23528.85
+30.93
+ 0.13%
--
USDX
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ
99.030
99.110
99.030
99.060
98.740
+0.050
+ 0.05%
--
EURUSD
ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ
1.16316
1.16325
1.16316
1.16715
1.16277
-0.00129
-0.11%
--
GBPUSD
ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ
1.33175
1.33186
1.33175
1.33622
1.33165
-0.00096
-0.07%
--
XAUUSD
Gold / US Dollar
4211.89
4212.32
4211.89
4259.16
4194.54
+4.72
+ 0.11%
--
WTI
Light Sweet Crude Oil
59.813
59.843
59.813
60.236
59.187
+0.430
+ 0.72%
--

บัญชีชุมชน

บัญชีสัญญาณ (อัน)
--
บัญชีกำไร (อัน)
--
บัญชีขาดทุน (อัน)
--
ดูเพิ่มเติม

มาเป็นผู้ให้สัญญาณ

ขายสัญญาณและรับรายได้

ดูเพิ่มเติม

คู่มือการคัดลอกการซื้อขาย

เริ่มต้นง่ายๆ

ดูเพิ่มเติม

สัญญาณ VIP

ทั้งหมด

ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • กำไร/ขาดทุนที่ดีที่สุด
  • MDD ที่ดีที่สุด
1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 เดือนที่ผ่านมา
  • 1 ปีที่ผ่านมา

ทั้งหมด

  • ทั้งหมด
  • อัปเดตทรัมป์
  • แนะนำ
  • หุ้น
  • สกุลเงินดิจิทัล
  • ธนาคารกลาง
  • ข่าวเด่น
ดูข่าวเด่นเท่านั้น
แชร์

กระทรวงการคลังสวิสเผยยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย UBS ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

แชร์

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเอเธนส์ปิดที่ 2,104.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.04% ในสัปดาห์นี้

แชร์

ราคาโกโก้ล่วงหน้าของ ICE นิวยอร์กพุ่งขึ้นมากกว่า 3% สู่ระดับ 5,661 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน

แชร์

ดัชนีหุ้นอ้างอิงของบราซิล Bovespa .Bvsp พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลใหม่ ทะลุ 165,000 จุดเป็นครั้งแรก

แชร์

ราคาเงินล่วงหน้าของนิวยอร์กพุ่งขึ้น 4.00% สู่ระดับ 59.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันนี้

แชร์

ราคาเงินแตะระดับ 59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล และเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในปีนี้

แชร์

ราคาทองคำแตะระดับ 4,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในวันนี้

แชร์

ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent ยังคงปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสั้นๆ โดยราคาน้ำมันดิบ WTI แตะที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในวันนั้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นประมาณ 0.8%

แชร์

SEBI ของอินเดีย: Sandip Pradhan เข้ารับตำแหน่งสมาชิกเต็มเวลา

แชร์

ราคาเงินสปอตพุ่งขึ้น 3% สู่ระดับ 58.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์

การสำรวจพบว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ยังคงอยู่สูงกว่า 29 ล้านบาร์เรลต่อวันเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน

แชร์

จากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ ระบุว่า SoftBank Group ของญี่ปุ่นกำลังเจรจาเพื่อเข้าซื้อบริษัทการลงทุน Digitalbridge

แชร์

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ดัชนี Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 0.8% และดัชนีเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 2.1%

แชร์

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ลดการขาดทุนหลังข้อมูล ล่าสุดลดลง 0.09% อยู่ที่ 98.98

แชร์

ยูโรเพิ่มขึ้น 0.02% ที่ 1.1647 ดอลลาร์

แชร์

ดอลลาร์/เยน ขึ้น 0.12% ที่ 155.3

แชร์

เงินปอนด์ขึ้น 0.14% ที่ 1.3346 ดอลลาร์

แชร์

ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังข้อมูล Pce ของสหรัฐฯ ล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับ 4,241.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์

S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.35%, Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.38%, Dow เพิ่มขึ้น 0.42%

แชร์

ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่แท้จริงของสหรัฐฯ (Pce) เพิ่มขึ้น 0% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนกันยายน เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.1% และตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ 0.4%

เวลา
ค่าจริง
คาดการณ์
ครั้งก่อน
สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax YoY (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส บัญชีเดินสะพัด (Not SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

อิตาลี ดัชนียอดค้าปลีก MoM (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน GDP Final YoY (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน GDP Final QoQ (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงาน QoQ (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงานสุดท้าย (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --
บราซิล PPI MoM (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา เงินเฟ้อเบื้องต้น UMich 5-YearYoY (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีสถานภาพเบื้องต้น UMich ปัจจุบัน (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น UMich (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่วงหน้า 1 ปี UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความคาดหวังผู้บริโภค UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ค่าจ้าง MoM (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดุลการค้า (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น GDP Nominal แก้ไขQoQ (ไตรมาส 3)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดุลการค้า (SA)(ข้อมูลศุลกากร) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น GDP ประจำปี (แก้ไข) QoQ (ไตรมาส 3)

--

ค: --

ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

เยอรมนี การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน Sentix (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

แคนาดา อินดิเคเตอร์ชั้นนำ MoM (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

แคนาดา ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจแห่งชาติ

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาธนาคารกลางรัฐดัลลาส สหรัฐอเมริกา PCE YoY (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา อัตราผลตอบแทนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล 3-ปี

--

ค: --

ค: --

สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีกรวม BRC YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีก Like-For-Like BRC YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ออสเตรเลีย อัตราหลัก(ดอกเบี้ยเงินกู้)O/N

--

ค: --

ค: --

คำแถลงอัตราของธนาคารกลางออสเตรเลีย
ประธานธนาคารกลางออสเตรเลีย Bullock จัดงานแถลงข่าวนโยบายการเงิน
เยอรมนี อัตราการส่งออก MoM (SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก NFIB (SA) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก CPI หลัก YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
    • ทั้งหมด
    • ห้องสนทนา
    • กลุ่ม
    • เพื่อน
    กำลังเชื่อมต่อกับห้องสนทนา
    .
    .
    .
    พิมพ์ที่นี่...
    เพิ่มชื่อสินทรัพย์หรือรหัส

      ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน

      ทั้งหมด
      อัปเดตทรัมป์
      แนะนำ
      หุ้น
      สกุลเงินดิจิทัล
      ธนาคารกลาง
      ข่าวเด่น
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      ค้นหา
      ผลิตภัณฑ์

      กราฟ ฟรีตลอดไป

      แชท Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
      ตัวกรอง ปฏิทินเศรษฐกิจ ข้อมูล เครื่องมือ
      สมาชิก ฟีเจอร์
      ศูนย์ข้อมูล แนวโน้มของตลาด ข้อมูลสถาบัน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เศรษฐกิจมหภาค

      แนวโน้มของตลาด

      ความเชื่อมั่น รายการคำสั่งซื้อขาย ความสัมพันธ์ในตลาดฟอเร็กซ์

      ตัวชี้วัดยอดนิยม

      กราฟ ฟรีตลอดไป
      ตลาด

      ข่าวสาร

      ข่าวสาร การวิเคราะห์ 24x7 คอลัมน์ แหล่งเรียนรู้
      ทัศนคติสถาบัน ทัศนคตินักวิเคราะห์
      หัวข้อคอลัมน์ คอลัมนิสต์

      ทัศนคติล่าสุด

      ทัศนคติล่าสุด

      หัวข้อยอดนิยม

      คอลัมนิสต์ยอดนิยม

      อัปเดตล่าสุด

      สัญญาณ

      คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
      การแข่งขัน
      Brokers

      ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
      รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
      Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
      เพิ่มเติม

      สำหรับธุรกิจ
      กิจกรรม
      รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

      ไวท์เลเบล

      Data API

      ปลั๊กอินเว็บไซต์

      โครงการพันธมิตร

      รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
      เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
      Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
      การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView
      การค้นหาเมื่อเร็วๆนี้
        คำศัพท์ที่ยอดนิยม
          ตลาด
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          ผู้ใช้
          24x7
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          แหล่งเรียนรู้
          ข้อมูล
          • ชื่อ
          • ค่าล่าสุด
          • ครั้งก่อน

          ดูผลการค้นหาทั้งหมด

          ไม่มีข้อมูล

          สแกน ดาวน์โหลด

          Faster Charts, Chat Faster!

          ดาวน์โหลดแอป
          • English
          • Español
          • العربية
          • Bahasa Indonesia
          • Bahasa Melayu
          • Tiếng Việt
          • ภาษาไทย
          • Français
          • Italiano
          • Türkçe
          • Русский язык
          • 简中
          • 繁中
          เปิดบัญชี
          ค้นหา
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ ฟรีตลอดไป
          ตลาด
          ข่าวสาร
          สัญญาณ

          คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
          การแข่งขัน
          Brokers

          ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
          รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
          Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
          เพิ่มเติม

          สำหรับธุรกิจ
          กิจกรรม
          รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          โครงการพันธมิตร

          รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
          เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
          Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
          การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ผลประกอบการแข็งแกร่งหนุนหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น

          Reuters
          Halliburton
          +1.99%
          IBM Corp.
          +0.06%
          Johnson & Johnson
          -0.22%
          Truist Financial
          +0.28%
          Boeing
          +0.06%

          นิวยอร์ค--20 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร ในขณะที่บริษัทหลายแห่งรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด และปัจจัยดังกล่าวช่วยลดความกังวลของนักลงทุนในเรื่องที่ว่า ผลประกอบการภาคเอกชนอาจได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันพุ่งขึ้น 2.1% หลังจากฮัลลิเบอร์ตันรายงานว่าผลกำไรรายไตรมาสทะยานขึ้น 41% ส่วนหุ้นแฮสโบร ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตของเล่นปรับขึ้น 0.7% หลังจากแฮสโบรรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่ดีเกินคาด ทางด้านหุ้นธนาคารทรูอิสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ปพุ่งขึ้น 2.6% หลังจากทรูอิสต์รายงานผลกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาดเช่นกัน

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 2.43% สู่ 31,827.05, ดัชนี S&P 500 ปิดทะยานขึ้น 2.76% สู่ 3,936.69 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 3.11% สู่ 11,713.15 ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.สำหรับดัชนี Nasdaq

          • นายพอล คิม ซีอีโอของบริษัทซิมพลิฟาย แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า "ผลกำไรของบริษัทต่าง ๆ อยู่ในระดับที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ถูกปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา และสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินและภาวะเงินเฟ้อไม่ได้สร้างความเสียหายต่อรายได้ของภาคเอกชนมากเท่ากับที่เคยกังวลกันไว้" และเขากล่าวเสริมว่า "สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจมหภาคยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยผลกำไรยังคงชะลอตัวลง, แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง และเฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นผมจึงคาดว่า การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นแบบนี้จะไม่ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน" ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ผลกำไรไตรมาสสองของบริษัทในดัชนี S&P 500 อาจปรับขึ้น 5.8% เมื่อเทียบรายปี โดยปรับลดลงจากระดับ +6.8% ที่เคยคาดไว้ในช่วงต้นไตรมาสสอง

          • หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจการแพทย์ดิ่งลง 1.5% หลังจากทางบริษัทรายงานผลกำไรและยอดขายที่สูงเกินคาด แต่ทางบริษัทปรับลดแนวโน้มผลกำไรสำหรับปีนี้ โดยเป็นผลจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐก็ส่งผลลบต่อหุ้นของบริษัท IBM ด้วย โดย IBM เพิ่งรายงานตัวเลขรายได้ที่สูงเกินคาดในวันจันทร์ แต่ IBM ประกาศเตือนว่า ความเปลี่ยนแปลงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอาจสร้างความเสียหายต่อบริษัทราว 3.5 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยหุ้น IBM ปิดดิ่งลง 5.2% ในวันอังคาร

          • ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 106.67 ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยร่วงลงจาก 107.43 ในช่วงท้ายวันจันทร์ และเทียบกับระดับ 109.29 ที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2002 หรือจุดสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี โดยดอลลาร์ได้รับแรงกดดันในช่วงนี้จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.75% แทนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมในวันที่ 26-27 ก.ค.--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐร่วงลงตามหุ้นแอปเปิล

          Reuters
          IBM Corp.
          +0.06%
          Bank of America
          +0.52%
          Goldman Sachs
          +1.40%
          Boeing
          +0.06%
          Delta Air Lines
          -0.01%

          นิวยอร์ค--19 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารลดช่วงบวกลง และหุ้นบริษัทแอปเปิลดิ่งลง 2.1% มาปิดตลาดที่ 147.1 ดอลลาร์ โดยหุ้นแอปเปิลได้รับแรงกดดันข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ระบุว่า แอปเปิลวางแผนจะชะลอการจ้างงานและชะลอการปรับเพิ่มรายจ่ายในบางแผนกในปีหน้า เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.69% สู่ 31,072.61, ดัชนี S&P 500 ปิดปรับลง 0.84% สู่ 3,830.85 และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 0.81% สู่ 11,360.05 ทั้งนี้ หุ้น 9 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มการแพทย์และหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคถือเป็นหุ้น 2 กลุ่มที่ดิ่งลงมากที่สุด ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด

          • ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐลดช่วงบวกลง หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงแรก โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และธนาคารโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาปิดขยับขึ้น 0.03% ส่วนหุ้นโกลด์แมน แซคส์พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากโกลด์แมนรายงานว่า ผลกำไรไตรมาสสองปรับลดลง 48% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่มากเท่าที่คาด เนื่องจากผลกำไรของโกลด์แมนได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งในแผนกการค้าตราสารหนี้

          • เทรดเดอร์ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. และหันมาคาดการณ์อย่างเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.75% ในการประชุมครั้งนั้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดบางคนส่งสัญญาณในวันศุกร์ว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมปลายเดือนก.ค. ถึงแม้ว่าตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงในระยะนี้อาจจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินคาดในช่วงต่อไปในปีนี้

          • หุ้นแอลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลดิ่งลง 2.5% ส่วนหุ้น IBM รูดลง 1.3% ในวันจันทร์ ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอดูผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่บางแห่งที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเคยเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักหน่วงในช่วงครึ่งปีแรก--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          USA:เฟดชี้แบงก์สหรัฐสามารถรับมือภาวะศก.ตกต่ำได้หลังผ่านบททดสอบภาวะวิกฤติ

          Reuters
          KeyCorp
          +1.75%
          Bank of America
          +0.52%
          Northern Trust
          +0.28%
          Northern Trust Corporation Depositary Shares Each Representing a 1/1,000th Interest in a Share of Series E Non-Cumulative Perpetual Preferred Stock
          -0.36%
          Discover Financial Services
          0.00%
          • ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐสามารถผ่านบททดสอบประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อภาคธนาคารท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

          • ผลทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ประจำปีของเฟดพบว่า ธนาคารมีเงินทุนมากพอที่จะผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงได้ และทำให้พวกเขาสามารถซื้อคืนหุ้น และจ่ายปันผลได้

          • ธนาคาร 34 แห่งที่มีสินทรัพย์มากกว่า 1.00 แสนล้านดอลลาร์ภายใต้การกำกับดูแลของเฟด จะขาดทุนรวมกัน 6.12 แสนล้านดอลลาร์ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง แต่พวกเขาจะยังคงมีเงินทุนภายใต้เกณฑ์ที่กำหนดไว้อยู่เกือบ 2 เท่า

          • ธนาคารเหล่านี้ อาทิ เจพีมอร์แกน เชส, แบงก์ ออฟ อเมริกา, เวลส์ ฟาร์โก, ซิติกรุ๊ป, มอร์แกน สแตนเลย์ และโกลด์แมน แซคส์จึงสามารถใช้เงินทุนส่วนเกินเพื่อจ่ายปันผล และซื้อคืนหุ้นให้ผู้ถือหุ้นได้

          • แม้สถานการณ์จำลองในปี 2022 ถูกกำหนดขึ้นก่อนการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย และแนวโน้มเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในขณะนี้ แต่ผลการทดสอบก็น่าจะทำให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายรู้สึกคลายกังวลว่า ธนาคารของสหรัฐมีการเตรียมตัวดีพร้อมรับสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าอาจจะเกิดภาวะถดถอยในปีนี้ หรือปีหน้า--จบ--

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ข่าวทวิตเตอร์หนุนหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น

          Reuters
          Exxon Mobil
          +0.94%
          Chevron
          -0.37%
          Halliburton
          +1.99%
          Schlumberger
          +1.94%
          Silicon Motion Technology
          +0.54%

          นิวยอร์ค--26 เม.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ หลังจากบริษัททวิตเตอร์ตกลงที่จะขายกิจการให้แก่นายอีลอน มัสก์ ซึ่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลก และข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเติบโตให้พุ่งขึ้นในช่วงท้ายตลาด โดยหุ้นทวิตเตอร์ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสังคมทะยานขึ้น 5.6% หลังจากทวิตเตอร์ประกาศข่าวนี้ออกมา ทางด้านดัชนีหุ้นเติบโตของสหรัฐร่วงลงในช่วงแรก ก่อนจะปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 1% โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวทวิตเตอร์ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันในช่วงแรกจากความกังวลเรื่องการใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดในจีน โดยตลาดหุ้นจีนดิ่งลงในวันจันทร์ในอัตราที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2020 ส่วนตลาดหุ้นยุโรปรูดลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ทางด้านดัชนี S&P 500 เคลื่อนตัวในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนจะได้รับแรงหนุนจากข่าวทวิตเตอร์

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.7% สู่ 34,049.46, ดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น 0.57% สู่ 4,296.12 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 1.29% สู่ 13,004.85 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงดิ่งลงมาแล้วราว 18% จากช่วงต้นปีนี้

          • ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานของสหรัฐดิ่งลง 3.3% ในวันจันทร์ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดรูดลง 4.33 ดอลลาร์ หรือ 4.1% สู่ 102.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยหุ้นบริษัทเชฟรอน คอร์ปและเอ็กซอนโมบิลในกลุ่มน้ำมันดิ่งลงกว่า 2% ทางด้านหุ้นบริษัทชลัมเบอร์เกอร์และบริษัทฮัลลิเบอร์ตันซึ่งเป็นผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันรูดลงกว่า 6%

          • หุ้นแอลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลพุ่งขึ้น 2.9% ก่อนที่แอลฟาเบทจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในช่วงเย็นวันอังคาร ส่วนหุ้นไมโครซอฟท์ปิดทะยานขึ้น 2.44% และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กปิดพุ่งขึ้น 1.56% ในวันจันทร์ ทั้งนี้ บริษัทเกือบ 1 ใน 3 ของดัชนี S&P 500 จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ หลังจากบริษัท 102 แห่งในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการออกมาแล้ว และบริษัท 77.5% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด

          • ดัชนีความผันผวน CBOE หรือดัชนี VIX ที่ใช้วัดระดับความกังวลในตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งลง 4.22% สู่ 27.02 ในวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 31.6 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ผลประกอบการสดใสหนุนหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น

          Reuters
          Halliburton
          +1.99%
          Johnson & Johnson
          -0.22%
          IBM Corp.
          +0.06%
          The Travelers Companies
          -0.84%

          นิวยอร์ค--20 เม.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทสหรัฐ และจากถ้อยแถลงแบบสายพิราบของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สองคน ทั้งนี้ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวในวันอังคารว่า เขายอมรับได้กับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ที่ครอบคลุมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% เป็นจำนวน 2 ครั้ง และอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นสู่ระดับที่เป็นกลางก่อนสิ้นปีนี้ แต่เขามองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละมากกว่า 0.50% ส่วนนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวในวันอังคารว่า เฟดจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เพราะว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 3.5% ก่อนสิ้นปีนี้เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง และเขาไม่ตัดโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75%

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 1.45% สู่ 34,911.2, ดัชนี S&P 500 ปิดทะยานขึ้น 1.61% สู่ 4,462.21 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 2.15% สู่ 13,619.66 โดยทั้งสามดัชนีต่างก็พุ่งขึ้นในวันอังคารในอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.เป็นต้นมา ทั้งนี้ หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มคาสิโน โดยหุ้นบริษัทวินน์ รีสอร์ทส์, ซีซาร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และเพนน์ เนชั่นแนล เกมมิงทะยานขึ้น 4.9-5.9% ในวันอังคาร

          • หุ้นบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาพุ่งขึ้น 3.1% และปิดตลาดที่สถิติระดับปิดสูงสุดใหม่ หลังจากทางบริษัทรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาด และปรับขึ้นเงินปันผล ส่วนหุ้นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสเนส แมชีนส์ (IBM) ปิดทะยานขึ้น 2.4% ในวันอังคาร ก่อนที่ IBM จะรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการ ทั้งนี้ บริษัท 49 แห่งในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสออกมาแล้ว และบริษัท 79.6% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 66%

          • หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปิดตลาดวันอังคารพุ่งขึ้น 3.2% อย่างไรก็ดี เน็ตฟลิกซ์รายงานหลังจากตลาดปิดทำการว่า ยอดสมาชิกดิ่งลง 200,000 รายในไตรมาสแรก ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในขณะที่การระงับการให้บริการในรัสเซียส่งผลให้เน็ตฟลิกซ์สูญเสียสมาชิกไป 700,000 ราย นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า ยอดสมาชิกอาจดิ่งลง 2 ล้านรายในไตรมาสสอง ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 1% ในวันอังคาร ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์รูดลง 5.2% หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และเตือนเรื่องการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทางด้านหุ้นบริษัทฮัลลิเบอร์ตันซึ่งเป็นผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันร่วงลง 0.8% ในวันอังคาร ถึงแม้ฮัลลิเบอร์ตันรายงานว่า ผลกำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 85% เนื่องจากความต้องการใช้อุปกรณ์และบริการของฮัลลิเบอร์ตันเพิ่มสูงขึ้น

          • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงพุ่งขึ้นต่อไป โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือ 3% ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2019 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อของรัฐบาลสหรัฐ (TIPS) ประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 0.008% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันอังคาร จาก -0.088% ในช่วงท้ายวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นสู่แดนบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 หรือครั้งแรกในรอบ 2 ปี--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐร่วงลงขณะตลาดรอดูผลประกอบการ

          Reuters
          IBM Corp.
          +0.06%
          Bank of America
          +0.52%
          Charles Schwab
          +0.24%
          Marathon Petroleum
          +1.44%
          Johnson & Johnson
          -0.22%

          นิวยอร์ค--19 เม.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากแกว่งตัวผันผวนระหว่างแดนบวกและแดนลบในระหว่างวัน โดยตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อหุ้นเติบโต นอกจากนี้ นักลงทุนก็รอดูผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งที่จะได้รับการประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลประกอบการของบริษัทเน็ตฟลิกซ์, เทสลา, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และอินเตอร์เนชั่นแนล บิสเนส แมชีนส์ (IBM) โดยนักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า ฐานะการเงินของบริษัทต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจากสงครามยูเครนและจากการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริการายงานว่า ธุรกิจการปล่อยกู้แก่ผู้บริโภคเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่แผนกวาณิชธนกิจได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวในธุรกิจการทำข้อตกลง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาพุ่งขึ้น 3.4% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐทะยานขึ้น 1.7% ในวันจันทร์

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.11% สู่ 34,411.69, ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 0.02% สู่ 4,391.69 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับลง 0.14% สู่ 13,332.36 ทั้งนี้ หุ้น 5 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปิดพุ่งขึ้น 1.5% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะ 114.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากเหตุขัดข้องในการผลิตน้ำมันในลิเบีย

          • นายแจ็ค จานาซีวิคซ์ ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของบริษัทแนติซิส อินเวสท์เมนท์ แมเนเจอร์สกล่าวว่า "นักลงทุนรอดูทิศทางของตลาดในช่วงนี้ และผลประกอบการภาคเอกชนอาจจะช่วยกำหนดทิศทางให้กับตลาด แต่ปัจจัยสำคัญ 2 อันที่ยังคงครอบงำตลาดก็คือสถานการณ์ในจีน ในขณะที่จีนใช้นโยบายความอดทนเป็นศูนย์ต่อโรคโควิด-19 และประเด็นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำอย่างไรในอนาคตในส่วนของอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อ" และเขากล่าวเสริมว่า "ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่ปัจจัยสำคัญทั้งสองจะสามารถกำหนดทิศทางที่ชัดเจนให้กับตลาด และด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ประหลาดใจถ้าหากตลาดหุ้นจะยังคงเคลื่อนตัวในกรอบเดิมต่อไป"

          • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 2.884% ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2018 และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นเติบโต เพราะว่าการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งอาจจะส่งผลลบต่อผลกำไรในอนาคตของบริษัทกลุ่มนี้ ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลร่วงลง 0.1% ในวันจันทร์ แต่หุ้นเทสลาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งขึ้น 2% ในขณะที่เทสลาเตรียมที่จะเปิดโรงงานในนครเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง หลังจากปิดโรงงานมานานเกือบ 3 สัปดาห์ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19

          • หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นบริษัทมาราธอน ปิโตรเลียม คอร์ปพุ่งขึ้น 3.3% และแตะสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ส่วนหุ้นวาเลโร เอ็นเนอร์จี คอร์ปทะยานขึ้น 5.2% และหุ้นฟิลลิปส์ 66 พุ่งขึ้น 5.2% เช่นกัน ทั้งนี้ หุ้นบริษัททวิตเตอร์พุ่งขึ้น 7.5% หลังจากทวิตเตอร์ดำเนินมาตรการในวันศุกร์เพื่อสกัดกั้นนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาจากการเข้าถือหุ้นในทวิตเตอร์มากกว่า 15% เป็นเวลาหนึ่งปี--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นหลังการประชุมผู้นำจีน-สหรัฐ

          Reuters
          FedEx
          +0.34%
          Boeing
          +0.06%
          Delta Air Lines
          -0.01%

          นิวยอร์ค--21 มี.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้หารือทางวิดีโอกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันศุกร์ โดยปธน.ไบเดนพยายามโน้มน้าวจีนไม่ให้ช่วยเหลือรัสเซียในการรุกรานยูเครน และเนื้อหาในการหารือครั้งนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ต่อนักลงทุน ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ไบเดนได้กล่าวเตือนปธน.สีว่า จะมี "ผลตามมา" ถ้าหากรัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลืออย่างสำคัญต่อรัสเซียในการรุกรานยูเครน และทั้งจีนกับสหรัฐต่างก็เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการหาทางออกทางการทูตให้แก่วิกฤติยูเครน ทางด้านปธน.สีกล่าวว่า ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ควรจะหารือกับรัฐบาลรัสเซีย และเขาไม่ได้กล่าวโทษรัสเซียในเรื่องการรุกรานยูเครน

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.8% สู่ 34,754.93, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 1.17% สู่ 4,463.12 และดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 2.05% สู่ 13,893.84 ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับระดับปิดสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 5.5%, ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดสัปดาห์นี้ทะยานขึ้น 6.2% และดัชนี Nasdaq ปิดตลาดสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 8.2% โดยทั้งสามดัชนีต่างก็ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. 2020

          • นายอาร์ท โฮแกน หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนตลาดของบล.เนชั่นแนลกล่าวว่า ตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากการที่รัสเซียกับยูเครนยังคงเจรจากันต่อไป, จากการที่ราคาน้ำมันชะลอการปรับขึ้น และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยแนวโน้มในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยเขากล่าวเสริมว่า "แทนที่นักลงทุนจะต้องกังวลว่าเฟดจะทำสิ่งใดบ้างในอนาคต ตอนนี้เราก็มีแผนโร้ดแมปที่ชัดเจนสำหรับนโยบายการเงินแล้ว" ทั้งนี้ นายสตีฟ ซอสนิค หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทอินเทอร์แอคทีฟ โบรกเกอร์สกล่าวว่า นักลงทุนพึงพอใจที่ราคาน้ำมันอยู่สูงกว่าระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพียงเล็กน้อยในวันศุกร์ หลังจากราคาน้ำมันเคยทะยานขึ้นแตะ 139.13 ดอลลาร์ในวันที่ 7 มี.ค. โดยเขากล่าวเสริมว่า "นักลงทุนอาจจะไม่ได้ชื่นชอบที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับราว 100 ดอลลาร์ แต่นักลงทุนก็ต้องการให้ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับราว 100 ดอลลาร์ มากกว่าที่จะเห็นราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 20 ดอลลาร์ในแต่ละวัน"

          • หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันศุกร์ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดพุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปิดทะยานขึ้น 2.2% ในขณะที่หุ้นกลุ่มบริการการสื่อสารพุ่งขึ้น 1.4% อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปิดร่วงลง 0.9% และถือเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่เพียงกลุ่มเดียวที่ปิดตลาดในแดนลบในวันศุกร์

          • หุ้นโมเดอร์นาซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาปิดพุ่งขึ้น 6.3% หลังจากโมเดอร์นายื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ เพื่อขออนุมัติให้มีการใช้วัคซีนโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นาในฐานะวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่สอง ทั้งนี้ หุ้นโบอิ้งทะยานขึ้น 1.4% หลังจากมีข่าวว่าโบอิ้งใกล้จะได้ทำข้อตกลงกับสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ในการขายเครื่องบิน 737 MAX 10 จำนวนราว 100 ลำให้แก่เดลตา--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์
          FastBull
          ลิขสิทธิ์ © 2025 FastBull Ltd

          728 RM B 7/F GEE LOK IND BLDG NO 34 HUNG TO RD KWUN TONG KLN HONG KONG

          TelegramInstagramTwitterfacebooklinkedin
          App Store Google Play Google Play
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ

          แชท

          Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
          ตัวกรอง
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          ข้อมูล
          เครื่องมือ
          สมาชิก
          ฟีเจอร์
          ฟังก์ชั่น
          ตลาด
          ธุรกรรมคัดลอก
          สัญญาณล่าสุด
          การแข่งขัน
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          24x7
          คอลัมน์
          แหล่งเรียนรู้
          บริษัท
          รับสมัครงาน
          เกี่ยวกับเรา
          ติดต่อเรา
          การลงโฆษณา
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          ข้อเสนอแนะ
          ข้อตกลงผู้ใช้
          นโยบายความเป็นส่วนตัว
          สำหรับธุรกิจ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์

          โครงการพันธมิตร

          การเปิดเผยความเสี่ยง

          ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ

          ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ

          หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน

          ไม่ได้ล็อกอิน

          เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

          สมาชิก FastBull

          ยังไม่ได้เปิด

          สมัคร

          มาเป็นผู้ให้สัญญาณ
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          บริการลูกค้า
          โหมดมืด
          สีขึ้นและลง

          เข้าสู่ระบบ

          ลงทะเบียน

          แถบข้าง
          เลย์เอาท์
          เต็มหน้าจอ
          ตั้งค่าเริ่มต้นเป็นกราฟ
          หน้ากราฟจะเปิดขึ้นตามค่าเริ่มต้นเมื่อคุณเข้า fastbull.com