• การซื้อขาย
  • ตลาด
  • คัดลอก
  • การแข่งขัน
  • ข่าวสาร
  • 24x7
  • ปฏิทิน
  • Q&A
  • แชท
ยอดนิยม
ตัวกรอง
สินทรัพย์
ล่าสุด
ราคาขาย
ราคาซื้อ
สูงสุด
ต่ำสุด
เปลี่ยน
% เปลี่ยน
สเปรด
SPX
S&P 500 Index
6857.13
6857.13
6857.13
6865.94
6827.13
+7.41
+ 0.11%
--
DJI
Dow Jones Industrial Average
47850.93
47850.93
47850.93
48049.72
47692.96
-31.96
-0.07%
--
IXIC
NASDAQ Composite Index
23505.13
23505.13
23505.13
23528.53
23372.33
+51.04
+ 0.22%
--
USDX
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ
98.840
98.920
98.840
99.000
98.740
-0.140
-0.14%
--
EURUSD
ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ
1.16555
1.16564
1.16555
1.16715
1.16408
+0.00110
+ 0.09%
--
GBPUSD
ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ
1.33568
1.33576
1.33568
1.33622
1.33165
+0.00297
+ 0.22%
--
XAUUSD
Gold / US Dollar
4235.37
4235.80
4235.37
4238.86
4194.54
+28.20
+ 0.67%
--
WTI
Light Sweet Crude Oil
59.315
59.345
59.315
59.543
59.187
-0.068
-0.11%
--

บัญชีชุมชน

บัญชีสัญญาณ (อัน)
--
บัญชีกำไร (อัน)
--
บัญชีขาดทุน (อัน)
--
ดูเพิ่มเติม

มาเป็นผู้ให้สัญญาณ

ขายสัญญาณและรับรายได้

ดูเพิ่มเติม

คู่มือการคัดลอกการซื้อขาย

เริ่มต้นง่ายๆ

ดูเพิ่มเติม

สัญญาณ VIP

ทั้งหมด

ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • กำไร/ขาดทุนที่ดีที่สุด
  • MDD ที่ดีที่สุด
1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 เดือนที่ผ่านมา
  • 1 ปีที่ผ่านมา

ทั้งหมด

  • ทั้งหมด
  • อัปเดตทรัมป์
  • แนะนำ
  • หุ้น
  • สกุลเงินดิจิทัล
  • ธนาคารกลาง
  • ข่าวเด่น
ดูข่าวเด่นเท่านั้น
แชร์

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซียมีมูลค่า 169.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 1 ธันวาคม (6.1% ของ GDP) รวมถึงสินทรัพย์สภาพคล่อง 52.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.9% ของ GDP)

แชร์

สินทรัพย์สภาพคล่องของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 52.6 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 1 ธันวาคม

แชร์

สต็อกฝ้าย ICE รวมเป็น 15,585 - 5 ธันวาคม 2568

แชร์

ผู้นำฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่า การก้าวขั้นดังกล่าวเป็นการละเมิดจุดยืนเดิมของรัฐบาลอย่างชัดเจน

แชร์

ผู้นำฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่า ผู้แทนพลเรือนในคณะกรรมการหยุดยิงคือ 'การประนีประนอมโดยเสรี' แก่อิสราเอล

แชร์

ราคาตลาดสวอปของแคนาดาใน 15 จุดพื้นฐานของการคุมเข้มทางการเงินของธนาคารกลางแคนาดาในปี 2569 เพิ่มขึ้นจาก 5 จุดพื้นฐานก่อนที่การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น

แชร์

ผู้บริหาร Netflix เผยแผนการทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

แชร์

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเงินเซี่ยงไฮ้หลักพุ่งขึ้น 2.00% ในระหว่างวัน ปัจจุบันซื้อขายที่ 13,698.00 หยวน/กก.

แชร์

เอกสารยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ระบุว่ายุโรปเสี่ยงต่อการ 'ลบล้างอารยธรรม'

แชร์

คู่ USD/CAD ลดลงมากกว่า 20 จุดในระยะสั้น โดยปัจจุบันซื้อขายที่ 1.3913

แชร์

ค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของพนักงานประจำในแคนาดาเดือนพฤศจิกายน +4.0% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม +4.0%

แชร์

อัตราการว่างงานเดือนพฤศจิกายนของแคนาดาลดลงเหลือ 6.5% คาดการณ์ไว้ที่ 7.0%

แชร์

อัตราการมีส่วนร่วมของแคนาดาในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 65.1% เดือนตุลาคมอยู่ที่ 65.3%

แชร์

แคนาดา พ.ย. เต็มเวลา -9.4K, พาร์ทไทม์ +63.0K

แชร์

การจ้างงานของแคนาดาเพิ่มขึ้น 53,600 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน เทียบกับที่คาดว่าจะลดลง 5,000 ตำแหน่งและการเพิ่มขึ้นครั้งก่อน 66,600 ตำแหน่ง

แชร์

ภาคสินค้าของแคนาดามีงานเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน ภาคบริการมีงานเพิ่มขึ้น 42,800 ตำแหน่ง

แชร์

รัฐบาลสวิส: คาดว่าแพ็คเกจสวิส-สหภาพยุโรปจะเข้าสู่รัฐสภาสวิสในเดือนมีนาคม 2569

แชร์

ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติทำเนียบขาว ฮัสเซตต์ สนับสนุนมุมมองของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเบสซานต์ต่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ

แชร์

ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติทำเนียบขาว ฮัสเซ็ตต์: ไม่มีการหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ

แชร์

โครเอเชียประกาศใช้งบประมาณปี 2569 คาดการณ์การขาดดุล 2.9% ของ GDP

เวลา
ค่าจริง
คาดการณ์
ครั้งก่อน
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อสินค้าคงทนนอกกระทรวงกลาโหมที่ได้แก้ไข MoM (ไม่รวมเครื่องบิน)(SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM(ยกเว้นการขนส่ง) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM(ยกเว้นภาคกลาโหม) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การเปลี่ยนแปลงสต็อกก๊าซธรรมชาติประจำสัปดาห์ของ EIA

ค:--

ค: --

ค: --

ซาอุดิอาระเบีย การผลิตน้ำมันดิบ

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การถือครองธนารักษ์สหรัฐฯของธนาคารกลางต่างประเทศรายสัปดาห์

ค:--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

อินเดีย อัตราขายคืน

ค:--

ค: --

ค: --

อินเดีย ดอกเบี้ยอ้างอิง

ค:--

ค: --

ค: --

อินเดีย อัตราขายคืน

ค:--

ค: --

ค: --

อินเดีย อัตราเงินสดสำรอง

ค:--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น อินดิเคเตอร์ชั้นนำเบื้องต้น (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax YoY (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax MoM (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส บัญชีเดินสะพัด (Not SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ฝรั่งเศส การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

อิตาลี ดัชนียอดค้าปลีก MoM (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน GDP Final YoY (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน GDP Final QoQ (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงาน QoQ (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

ยูโรโซน การจ้างงานสุดท้าย (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --
บราซิล PPI MoM (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาธนาคารกลางรัฐดัลลาส สหรัฐอเมริกา PCE YoY (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา เงินเฟ้อเบื้องต้น UMich 5-YearYoY (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีสถานภาพเบื้องต้น UMich ปัจจุบัน (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น UMich (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่วงหน้า 1 ปี UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความคาดหวังผู้บริโภค UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ค่าจ้าง MoM (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดุลการค้า (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
    • ทั้งหมด
    • ห้องสนทนา
    • กลุ่ม
    • เพื่อน
    กำลังเชื่อมต่อกับห้องสนทนา
    .
    .
    .
    พิมพ์ที่นี่...
    เพิ่มชื่อสินทรัพย์หรือรหัส

      ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน

      ทั้งหมด
      อัปเดตทรัมป์
      แนะนำ
      หุ้น
      สกุลเงินดิจิทัล
      ธนาคารกลาง
      ข่าวเด่น
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      ค้นหา
      ผลิตภัณฑ์

      กราฟ ฟรีตลอดไป

      แชท Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
      ตัวกรอง ปฏิทินเศรษฐกิจ ข้อมูล เครื่องมือ
      สมาชิก ฟีเจอร์
      ศูนย์ข้อมูล แนวโน้มของตลาด ข้อมูลสถาบัน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เศรษฐกิจมหภาค

      แนวโน้มของตลาด

      ความเชื่อมั่น รายการคำสั่งซื้อขาย ความสัมพันธ์ในตลาดฟอเร็กซ์

      ตัวชี้วัดยอดนิยม

      กราฟ ฟรีตลอดไป
      ตลาด

      ข่าวสาร

      ข่าวสาร การวิเคราะห์ 24x7 คอลัมน์ แหล่งเรียนรู้
      ทัศนคติสถาบัน ทัศนคตินักวิเคราะห์
      หัวข้อคอลัมน์ คอลัมนิสต์

      ทัศนคติล่าสุด

      ทัศนคติล่าสุด

      หัวข้อยอดนิยม

      คอลัมนิสต์ยอดนิยม

      อัปเดตล่าสุด

      สัญญาณ

      คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
      การแข่งขัน
      Brokers

      ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
      รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
      Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
      เพิ่มเติม

      สำหรับธุรกิจ
      กิจกรรม
      รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

      ไวท์เลเบล

      Data API

      ปลั๊กอินเว็บไซต์

      โครงการพันธมิตร

      รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
      เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
      Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
      การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView
      การค้นหาเมื่อเร็วๆนี้
        คำศัพท์ที่ยอดนิยม
          ตลาด
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          ผู้ใช้
          24x7
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          แหล่งเรียนรู้
          ข้อมูล
          • ชื่อ
          • ค่าล่าสุด
          • ครั้งก่อน

          ดูผลการค้นหาทั้งหมด

          ไม่มีข้อมูล

          สแกน ดาวน์โหลด

          Faster Charts, Chat Faster!

          ดาวน์โหลดแอป
          • English
          • Español
          • العربية
          • Bahasa Indonesia
          • Bahasa Melayu
          • Tiếng Việt
          • ภาษาไทย
          • Français
          • Italiano
          • Türkçe
          • Русский язык
          • 简中
          • 繁中
          เปิดบัญชี
          ค้นหา
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ ฟรีตลอดไป
          ตลาด
          ข่าวสาร
          สัญญาณ

          คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
          การแข่งขัน
          Brokers

          ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
          รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
          Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
          เพิ่มเติม

          สำหรับธุรกิจ
          กิจกรรม
          รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          โครงการพันธมิตร

          รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
          เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
          Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
          การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ผลประกอบการสดใสหนุนหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น

          Reuters
          Halliburton
          +1.57%
          Johnson & Johnson
          -1.39%
          IBM Corp.
          +1.77%
          The Travelers Companies
          -0.50%

          นิวยอร์ค--20 เม.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทสหรัฐ และจากถ้อยแถลงแบบสายพิราบของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สองคน ทั้งนี้ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวในวันอังคารว่า เขายอมรับได้กับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ที่ครอบคลุมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% เป็นจำนวน 2 ครั้ง และอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นสู่ระดับที่เป็นกลางก่อนสิ้นปีนี้ แต่เขามองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละมากกว่า 0.50% ส่วนนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวในวันอังคารว่า เฟดจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เพราะว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 3.5% ก่อนสิ้นปีนี้เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง และเขาไม่ตัดโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.75%

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 1.45% สู่ 34,911.2, ดัชนี S&P 500 ปิดทะยานขึ้น 1.61% สู่ 4,462.21 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 2.15% สู่ 13,619.66 โดยทั้งสามดัชนีต่างก็พุ่งขึ้นในวันอังคารในอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.เป็นต้นมา ทั้งนี้ หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มคาสิโน โดยหุ้นบริษัทวินน์ รีสอร์ทส์, ซีซาร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และเพนน์ เนชั่นแนล เกมมิงทะยานขึ้น 4.9-5.9% ในวันอังคาร

          • หุ้นบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาพุ่งขึ้น 3.1% และปิดตลาดที่สถิติระดับปิดสูงสุดใหม่ หลังจากทางบริษัทรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาด และปรับขึ้นเงินปันผล ส่วนหุ้นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสเนส แมชีนส์ (IBM) ปิดทะยานขึ้น 2.4% ในวันอังคาร ก่อนที่ IBM จะรายงานผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการ ทั้งนี้ บริษัท 49 แห่งในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสออกมาแล้ว และบริษัท 79.6% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 66%

          • หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปิดตลาดวันอังคารพุ่งขึ้น 3.2% อย่างไรก็ดี เน็ตฟลิกซ์รายงานหลังจากตลาดปิดทำการว่า ยอดสมาชิกดิ่งลง 200,000 รายในไตรมาสแรก ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี ในขณะที่การระงับการให้บริการในรัสเซียส่งผลให้เน็ตฟลิกซ์สูญเสียสมาชิกไป 700,000 ราย นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า ยอดสมาชิกอาจดิ่งลง 2 ล้านรายในไตรมาสสอง ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 1% ในวันอังคาร ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์รูดลง 5.2% หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และเตือนเรื่องการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทางด้านหุ้นบริษัทฮัลลิเบอร์ตันซึ่งเป็นผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันร่วงลง 0.8% ในวันอังคาร ถึงแม้ฮัลลิเบอร์ตันรายงานว่า ผลกำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 85% เนื่องจากความต้องการใช้อุปกรณ์และบริการของฮัลลิเบอร์ตันเพิ่มสูงขึ้น

          • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงพุ่งขึ้นต่อไป โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือ 3% ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2019 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อของรัฐบาลสหรัฐ (TIPS) ประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 0.008% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันอังคาร จาก -0.088% ในช่วงท้ายวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นสู่แดนบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 หรือครั้งแรกในรอบ 2 ปี--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐร่วงลงขณะตลาดรอดูผลประกอบการ

          Reuters
          IBM Corp.
          +1.77%
          Bank of America
          +0.13%
          Charles Schwab
          +1.11%
          Marathon Petroleum
          +0.38%
          Johnson & Johnson
          -1.39%

          นิวยอร์ค--19 เม.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากแกว่งตัวผันผวนระหว่างแดนบวกและแดนลบในระหว่างวัน โดยตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อหุ้นเติบโต นอกจากนี้ นักลงทุนก็รอดูผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งที่จะได้รับการประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลประกอบการของบริษัทเน็ตฟลิกซ์, เทสลา, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และอินเตอร์เนชั่นแนล บิสเนส แมชีนส์ (IBM) โดยนักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า ฐานะการเงินของบริษัทต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจากสงครามยูเครนและจากการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริการายงานว่า ธุรกิจการปล่อยกู้แก่ผู้บริโภคเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่แผนกวาณิชธนกิจได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวในธุรกิจการทำข้อตกลง โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาพุ่งขึ้น 3.4% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐทะยานขึ้น 1.7% ในวันจันทร์

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.11% สู่ 34,411.69, ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 0.02% สู่ 4,391.69 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับลง 0.14% สู่ 13,332.36 ทั้งนี้ หุ้น 5 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปิดพุ่งขึ้น 1.5% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะ 114.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากเหตุขัดข้องในการผลิตน้ำมันในลิเบีย

          • นายแจ็ค จานาซีวิคซ์ ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของบริษัทแนติซิส อินเวสท์เมนท์ แมเนเจอร์สกล่าวว่า "นักลงทุนรอดูทิศทางของตลาดในช่วงนี้ และผลประกอบการภาคเอกชนอาจจะช่วยกำหนดทิศทางให้กับตลาด แต่ปัจจัยสำคัญ 2 อันที่ยังคงครอบงำตลาดก็คือสถานการณ์ในจีน ในขณะที่จีนใช้นโยบายความอดทนเป็นศูนย์ต่อโรคโควิด-19 และประเด็นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำอย่างไรในอนาคตในส่วนของอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อ" และเขากล่าวเสริมว่า "ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่ปัจจัยสำคัญทั้งสองจะสามารถกำหนดทิศทางที่ชัดเจนให้กับตลาด และด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ประหลาดใจถ้าหากตลาดหุ้นจะยังคงเคลื่อนตัวในกรอบเดิมต่อไป"

          • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 2.884% ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2018 และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นเติบโต เพราะว่าการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งอาจจะส่งผลลบต่อผลกำไรในอนาคตของบริษัทกลุ่มนี้ ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลร่วงลง 0.1% ในวันจันทร์ แต่หุ้นเทสลาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งขึ้น 2% ในขณะที่เทสลาเตรียมที่จะเปิดโรงงานในนครเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง หลังจากปิดโรงงานมานานเกือบ 3 สัปดาห์ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19

          • หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นบริษัทมาราธอน ปิโตรเลียม คอร์ปพุ่งขึ้น 3.3% และแตะสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ส่วนหุ้นวาเลโร เอ็นเนอร์จี คอร์ปทะยานขึ้น 5.2% และหุ้นฟิลลิปส์ 66 พุ่งขึ้น 5.2% เช่นกัน ทั้งนี้ หุ้นบริษัททวิตเตอร์พุ่งขึ้น 7.5% หลังจากทวิตเตอร์ดำเนินมาตรการในวันศุกร์เพื่อสกัดกั้นนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาจากการเข้าถือหุ้นในทวิตเตอร์มากกว่า 15% เป็นเวลาหนึ่งปี--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐดีดขึ้น,คาดสหรัฐไม่ล็อกดาวน์

          Reuters
          Block
          0.00%
          Pfizer
          +0.51%
          Merck & Co.
          -1.35%
          MGM Resorts International
          -0.42%
          Johnson & Johnson
          -1.39%

          นิวยอร์ค--30 พ.ย.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นในวันจันทร์ หลังจากดิ่งลงในวันศุกร์ ในขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลให้สหรัฐประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐกล่าวในวันจันทร์ว่า ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องมาตรการล็อกดาวน์ในตอนนี้ และเขาขอให้ชาวสหรัฐไม่ตื่นตระหนกกับสายพันธุ์โอมิครอน อย่างไรก็ดี เขาแนะนำให้ชาวสหรัฐฉีดวัคซีนและใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในตัวอาคาร และเขากล่าวเสริมว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังทำงานร่วมกับบริษัทเวชภัณฑ์ในการเตรียมแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้าหากมีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนใหม่ ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าดัชนี S&P และดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในวันจันทร์ ในขณะที่ดัชนี Nasdaq ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐพุ่งขึ้น 4% ในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากหุ้นบริษัทเอ็นวิเดียที่ทะยานขึ้น 5.9% ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากหุ้นบริษัทเมอร์ค แอนด์ โคที่ดิ่งลง 5.4% หลังจากผลการศึกษายารักษาโรคโควิด-19 ของเมอร์คแสดงให้เห็นว่า ยาตัวนี้มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงในการเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตในระดับต่ำกว่าที่เคยระบุไว้

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.68% สู่ 35,135.94, ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 1.32% สู่ 4,655.27 และดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 1.88% สู่ 15,782.83 ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2.6% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยทะยานขึ้น 1.6% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากเป็นอันดับสอง โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นอะเมซอนดอทคอมและหุ้นเทสลา นอกจากนี้ ดัชนี S&P ก็ได้รับแรงหนุนสำคัญจากหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์ที่พุ่งขึ้น 2.11% และหุ้นบริษัทแอปเปิลที่ทะยานขึ้น 2.19% ด้วย โดยหุ้นแอปเปิลได้รับแรงหนุน หลังจากธนาคาร HSBC ปรับขึ้นราคาเป้าหมายของหุ้นแอปเปิล

          • นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น หลังจากได้ฟังถ้อยแถลงของปธน.ไบเดน และหลังจากบริษัทยาส่งสัญญาณว่า ทางบริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับสายพันธุ์โอมิครอน โดยบริษัทไฟเซอร์, บิออนเทค, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันระบุในวันจันทร์ว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนที่ตั้งเป้าไปที่สายพันธุ์โอมิครอนอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อใช้ในกรณีที่วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถต้านทานสายพันธุ์โอมิครอนได้ ทั้งนี้ หุ้นโมเดอร์นาพุ่งขึ้น 11.8%, หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันบวกขึ้น 0.34% แต่หุ้นไฟเซอร์ดิ่งลงเกือบ 3% ทางด้านศูนย์การควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐระบุหลังจากตลาดปิดทำการในวันจันทร์ว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในเวลา 6 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา หรือในเวลา 2 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

          • นางแคโรล ชลีฟ รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทบีเอ็มโอตั้งข้อสังเกตว่า นักลงทุนมีความคุ้นเคยกับการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรเมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นดิ่งลงในปีนี้ และเธอตั้งข้อสังเกตว่า "นักลงทุนพยายามประเมินสถานการณ์ใหม่ในช่วงนี้ และจะใช้ความอดทนในช่วงนี้" ทั้งนี้ อังกฤษระบุว่า อังกฤษจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ผู้ใหญ่ทุกคน และจะฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้แก่เด็กอายุ 12-15 ปี หลังจากมีความกังวลเรื่องสายพันธุ์โอมิครอน โดยอังกฤษต้องการใช้วัคซีนของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ในฐานะวัคซีนเข็มกระตุ้น

          • หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 5% หลังจากมีข่าวว่านายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาขอให้ลูกจ้างปรับลดต้นทุนในการจัดส่งรถยนต์--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ดาวโจนส์,S&P ปรับขึ้นแต่ Nasdaq ขยับลง

          Reuters
          Verizon
          +1.45%
          IBM Corp.
          +1.77%
          Abbott Laboratories
          +0.09%

          นิวยอร์ค--21 ต.ค.--รอยเตอร์

          • ดัชนี S&P 500 และดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นในวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์สามารถพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ได้ในระหว่างวัน และทำลายสถิติสูงสุดเก่าที่เคยทำไว้ในช่วงกลางเดือนส.ค. ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในทางบวกต่อผลประกอบการไตรมาสสามของบริษัทสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลงตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในวันพุธ ในขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดร่วงลง 0.3% หลังจากปิดตลาดในแดนบวกมานาน 5 วันติดต่อกัน ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์ของสหรัฐปรับขึ้นในวันพุธเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทแอนเธมและหุ้นบริษัทแอบบอทท์ โดยหุ้นแอนเธมทะยานขึ้น 7.7% หลังจากแอนเธมปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปี ส่วนหุ้นแอบบอทท์ แลบอราทอรีส์ปิดพุ่งขึ้น 3.3% หลังจากแอบบอทท์ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปี โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดขึ้นของยอดขายชุดทดสอบโรคโควิด-19

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 0.43% สู่ 35,609.34, ดัชนี S&P 500 ปิดบวกขึ้น 0.37% สู่ 4,536.19 หลังจากปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ 4,540.87 ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ที่ 4,545.85 ในวันที่ 2 ก.ย. ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดขยับลง 0.05% สู่ 15,121.68 ทางด้านดัชนีความผันผวน CBOE หรือดัชนี VIX ที่ใช้วัดระดับความกังวลในตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแตะ 15.29 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. ทั้งนี้ หุ้น 8 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปิดพุ่งขึ้นราว 1.6% และดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์ปิดทะยานขึ้น 1.5% ทางด้านดัชนีหุ้นคุณค่าของสหรัฐ ซึ่งครอบคลุมหุ้นกลุ่มพลังงาน, กลุ่มอุตสาหกรรม และหุ้นที่มักปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ปิดบวกขึ้น 0.9% หลังจากพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ในระหว่างวัน

          • ดัชนี S&P เคยได้รับแรงกดดันในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า บริษัทสหรัฐอาจได้รับแรงกดดันจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน, อัตราผลกำไรที่ระดับต่ำ, การปรับขึ้นค่าแรง และการพุ่งขึ้นของต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ดี เมื่อฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาสสามเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนก็พึงพอใจที่บริษัทสหรัฐสามารถรักษาอัตราผลกำไรเอาไว้ได้ โดยใช้วิธีผลักภาระต้นทุนไปให้แก่ลูกค้า และปัจจัยนี้ก็ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น

          • นักลงทุนคาดการณ์ในตอนนี้ว่า ผลกำไรไตรมาสสามของบริษัทสหรัฐอาจพุ่งขึ้น 33% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ในขณะที่บริษัทราว 14% ในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการออกมาแล้ว และบริษัทกว่า 85% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด

          • บริษัท IBM เปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการในวันพุธ โดย IBM รายงานว่า รายได้ไตรมาสสามอยู่ในระดับที่ต่ำเกินคาด ทางด้านบริษัทเทสลาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายงานว่า รายได้ไตรมาสสามอยู่ในระดับที่สูงเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากยอดจัดส่งสินค้าที่สูงเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี เทสลาต้องรับมือกับภาวะขาดแคลนชิปและวัตถุดิบทั่วโลกเป็นเวลายาวนาน--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:หุ้นสหรัฐปรับขึ้น,คาดผลประกอบการสดใส

          Reuters
          Walmart
          +0.38%
          Apple
          -1.21%
          Microsoft
          +0.46%
          Netflix
          -0.97%
          The Travelers Companies
          -0.50%

          นิวยอร์ค--20 ต.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มการแพทย์ ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า บริษัทสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี นักลงทุนบางรายกังวลว่า ตอนนี้อาจจะเป็นเวลาที่เร็วเกินไปที่จะมั่นใจในเรื่องนี้ ทั้งนี้ หุ้นบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันพุ่งขึ้น 2.3% และส่งแรงบวกเป็นอย่างมากต่อดัชนี S&P 500 หลังจากทางบริษัทปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรประจำปี 2021 ส่วนหุ้นบริษัททราเวเลอร์ส คอส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันทะยานขึ้น 1.6% หลังจากทางบริษัทเปิดเผยผลกำไรที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นกลุ่มการสื่อสารก็ทะยานขึ้นด้วย โดยเฉพาะหุ้นบริษัทแอปเปิล, เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.56% สู่ 35,457.31 และอยู่ห่างจากสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงกลางเดือนส.ค.ราว 0.5%, ดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น 0.74% สู่ 4,519.63 ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน และอยู่ต่ำกว่าสถิติระดับปิดสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนก.ย.ราว 0.4% ทางด้านดัชนี Nasdaq ปิดบวกขึ้น 0.71% สู่ 15,129.09 ทั้งนี้ หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์พุ่งขึ้น 1.3% ในวันอังคาร และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด หลังจากร่วงลง 0.7% ในวันจันทร์ ทางด้านดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคทะยานขึ้น 1.26% และถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากเป็นอันดับสอง หลังจากร่วงลงเกือบ 1% ในวันจันทร์

          • นายสตีฟ ซอสนิค หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทอินเทอร์แอคทีฟ โบรกเกอร์สกังวลว่า ตลาดหุ้นอาจจะย่อตัวลงได้ในอนาคต และเขากล่าวเสริมว่า "ตลาดหุ้นอาจจะพุ่งขึ้นมากเกินไป และมีแนวโน้มว่าดัชนี S&P อาจจะพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ ก่อนที่จะย่อตัวลง โดยขึ้นอยู่กับผลประกอบการภาคเอกชน" ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 อาจพุ่งขึ้น 32.4% ในไตรมาสสามเมื่อเทียบรายปี ในขณะที่ดัชนีความผันผวน CBOE หรือดัชนี VIX ที่ใช้วัดระดับความกังวลในตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแตะ 15.57 ในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.

          • หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปิดขยับขึ้น 0.2% ในวันอังคาร โดยเน็ตฟลิกซ์ได้เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสหลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคาร โดยระบุว่าละครเกาหลีใต้เรื่อง "Squid Game" สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ได้สูงเกินคาด ทางด้านหุ้นเทสลาปิดร่วงลง 0.7% ในวันอังคาร ก่อนที่เทสลาจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธ และนักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังผลประกอบการของเทสลาในจีน

          • ดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์ได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทเมอร์ค แอนด์ โคที่พุ่งขึ้น 3% และหุ้นไฟเซอร์ที่ทะยานขึ้น 1.9% อย่างไรก็ดี หุ้นบริษัทเอเทีย ฟาร์มาซูติคัลส์ อิงค์ดิ่งลง 66% หลังจากยาต้านไวรัสที่เอเทียพัฒนาร่วมกับบริษัทโรชไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยหรือปานกลางได้--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ตลาดหุ้นสหรัฐดีดขึ้นตามหุ้นกลุ่มวัฏจักรศก.

          Reuters
          UnitedHealth
          -1.83%
          Chipotle Mexican Grill
          +0.65%
          Halliburton
          +1.57%

          นิวยอร์ค--21 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร หลังจากร่วงลงติดต่อกันหลายวันในช่วงที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง และจากการคาดการณ์ในทางบวกต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นคำสั่งซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มที่มักปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มขนส่ง และหุ้นบริษัทขนาดเล็ก โดยดัชนี Russell 2000 สำหรับหุ้นบริษัทขนาดเล็กปิดพุ่งขึ้น 2.99% นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารก็ทะยานขึ้น 2.6% โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่ดีดขึ้นสู่ 1.209% ในช่วงท้ายวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะ 1.128% ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 5 เดือน

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 1.62% สู่ 34,511.99 หลังจากเพิ่งดิ่งลงในวันจันทร์ในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบ 9 เดือน, ดัชนี S&P 500 ปิดทะยานขึ้น 1.52% สู่ 4,323.06 ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังจากดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในแดนลบมานานติดต่อกัน 3 วัน และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 1.57% สู่ 14,498.88 หลังจากปิดตลาดในแดนลบมานานติดต่อกัน 5 วัน ทั้งนี้ หุ้น 10 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยมีเพียงแค่หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นที่ไม่ได้ปิดตลาดในแดนบวกในวันอังคาร ส่วนหุ้นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุดคือหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทะยานขึ้น 2.7%

          • นายชัค คาร์ลสัน ซีอีโอของบริษัทฮอไรซัน อินเวสท์เมนท์ เซอร์วิสเซสกล่าวว่า "นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงนี้ และหุ้นกลุ่มที่มักปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจก็ทะยานขึ้นในวันอังคาร" และเขากล่าวเสริมว่า "การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ทรุดตัวลงอย่างรุนแรง" ทั้งนี้ ตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันในช่วงหลายวันที่ผ่านมาจากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตา

          • บริษัท 56 แห่งในดัชนี S&P 500 เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาแล้ว โดยบริษัท 91% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด และนักวิเคราะห์ก็คาดว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 อาจมีผลกำไรไตรมาสสองพุ่งขึ้น 72.9% เมื่อเทียบรายปี โดยปรับขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 54% ที่เคยคาดไว้ในช่วงต้นไตรมาส 2

          • หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันพุ่งขึ้น 3.7% หลังจากการดีดขึ้นของราคาน้ำมันดิบช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในบริการแหล่งน้ำมัน และส่งผลให้ฮัลลิเบอร์ตันมีผลกำไรรายไตรมาสเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งนี้ หุ้นโมเดอร์นาซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนโรคโควิด-19 ดิ่งลง 2% ก่อนที่หุ้นโมเดอร์นาจะได้รับการบรรจุเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี S&P 500 ในวันพุธนี้--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          DJIA:ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:วิตกโรคระบาดกดหุ้นสหรัฐดิ่งลงรุนแรง

          Reuters
          Honeywell
          -0.52%
          Harley-Davidson
          -2.87%
          Johnson & Johnson
          -1.39%
          IBM Corp.
          +1.77%

          นิวยอร์ค--20 ก.ค.--รอยเตอร์

          • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์ ในขณะที่การพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตาส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาในวงกว้าง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอาจจะมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ และกังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอการฟื้นตัว ทั้งนี้ นักลงทุนต้องการหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงนี้ และนักลงทุนได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดิ่งลงแตะ 1.176% ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน และปัจจัยนี้มีส่วนทำให้ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐรูดลง 3.3% ในวันจันทร์

          • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 2.09% สู่ 33,962.04 ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 9 เดือน, ดัชนี S&P 500 ปิดรูดลง 1.59% สู่ 4,258.49 และดัชนี Nasdaq ปิดดิ่งลง 1.06% สู่ 14,274.98 โดยการดิ่งลงของดัชนี S&P และ Nasdaq ในวันจันทร์ถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. ทั้งนี้ หุ้นทั้ง 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานรูดลง 3.6% ซึ่งถือเป็นการรูดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ทางด้านดัชนีหุ้นกลุ่มสายการบินดิ่งลง 3.8% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารรูดลง 2.7%

          • นายพอล โนลเท ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของบริษัทคิงส์วิว แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า ความกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตาส่งผลให้ตลาดหุ้นดิ่งลง และนักลงทุนก็กังวลอีกด้วยว่า สหรัฐอาจจะไม่สามารถเปิดเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วเท่ากับที่เคยคาดการณ์กันไว้ ทางด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตาได้กลายเป็นเชื้อที่แพร่ระบาดมากที่สุดทั่วโลกในตอนนี้ ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นประชากรที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ดัชนีความผันผวน CBOE หรือดัชนี VIX ที่ใช้วัดระดับความกังวลในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.1 จุด หรือ 21.95% มาปิดตลาดที่ 22.50 ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 เดือน

          • นักลงทุนจับตาดูฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ในช่วงนี้ โดยมีบริษัท 41 แห่งในดัชนี S&P 500 ที่เปิดเผยผลประกอบการออกมาแล้ว และบริษัท 90% ในกลุ่มนี้เปิดเผยผลกำไรที่ดีเกินคาด โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 อาจพุ่งขึ้น 72% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ บริษัทที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้รวมถึงบริษัทเน็ตฟลิกซ์, ทวิตเตอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, อินเทล, ฮันนีเวล และฮาร์เลย์-เดวิดสัน

          • บริษัทอินเตอร์เนชันแนล บิสเนส แมชีนส์ คอร์ป (IBM) เปิดเผยรายได้รายไตรมาสที่สูงเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของแผนกประมวลผลบนระบบคลาวด์--จบ--

          (รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

          ((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์
          FastBull
          ลิขสิทธิ์ © 2025 FastBull Ltd

          728 RM B 7/F GEE LOK IND BLDG NO 34 HUNG TO RD KWUN TONG KLN HONG KONG

          TelegramInstagramTwitterfacebooklinkedin
          App Store Google Play Google Play
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ

          แชท

          Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
          ตัวกรอง
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          ข้อมูล
          เครื่องมือ
          สมาชิก
          ฟีเจอร์
          ฟังก์ชั่น
          ตลาด
          ธุรกรรมคัดลอก
          สัญญาณล่าสุด
          การแข่งขัน
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          24x7
          คอลัมน์
          แหล่งเรียนรู้
          บริษัท
          รับสมัครงาน
          เกี่ยวกับเรา
          ติดต่อเรา
          การลงโฆษณา
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          ข้อเสนอแนะ
          ข้อตกลงผู้ใช้
          นโยบายความเป็นส่วนตัว
          สำหรับธุรกิจ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์

          โครงการพันธมิตร

          การเปิดเผยความเสี่ยง

          ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ

          ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ

          หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน

          ไม่ได้ล็อกอิน

          เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

          สมาชิก FastBull

          ยังไม่ได้เปิด

          สมัคร

          มาเป็นผู้ให้สัญญาณ
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          บริการลูกค้า
          โหมดมืด
          สีขึ้นและลง

          เข้าสู่ระบบ

          ลงทะเบียน

          แถบข้าง
          เลย์เอาท์
          เต็มหน้าจอ
          ตั้งค่าเริ่มต้นเป็นกราฟ
          หน้ากราฟจะเปิดขึ้นตามค่าเริ่มต้นเมื่อคุณเข้า fastbull.com