ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน












สัญญาณ VIP
ทั้งหมด
ทั้งหมด



ฝรั่งเศส อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยการประมูลหนี้ OAT 10-ปีค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน ดัชนียอดค้าปลีก YoY (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
บราซิล GDP YoY (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา จำนวนการปลดพนักงานบริษัทชาเลนเจอร์ เกรย์ และคริสต์มาส YoY (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การเลิกจ้างพนักงานบริษัทชาเลนเจอร์ เกรย์ และคริสต์มาส MoM (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การเลิกจ้างพนักงานบริษัทชาเลนเจอร์ เกรย์ และคริสต์มาส YoY (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ค่าเฉลี่ยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก4 สัปดาห์ (SA)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ (SA)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อรายสัปดาห์ (SA)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา Ivey PMI (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา Ivey PMI (Not SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อสินค้าคงทนนอกกระทรวงกลาโหมที่ได้แก้ไข MoM (ไม่รวมเครื่องบิน)(SA) (ก.ย.)ค:--
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM(ยกเว้นการขนส่ง) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM(ยกเว้นภาคกลาโหม) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การเปลี่ยนแปลงสต็อกก๊าซธรรมชาติประจำสัปดาห์ของ EIAค:--
ค: --
ค: --
ซาอุดิอาระเบีย การผลิตน้ำมันดิบค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การถือครองธนารักษ์สหรัฐฯของธนาคารกลางต่างประเทศรายสัปดาห์ค:--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย อัตราขายคืนค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย ดอกเบี้ยอ้างอิงค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย อัตราขายคืนค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย อัตราเงินสดสำรองค:--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น อินดิเคเตอร์ชั้นนำเบื้องต้น (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax YoY (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax MoM (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส บัญชีเดินสะพัด (Not SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
อิตาลี ดัชนียอดค้าปลีก MoM (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน GDP Final YoY (ไตรมาส 3)--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน GDP Final QoQ (ไตรมาส 3)--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน QoQ (SA) (ไตรมาส 3)--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงานสุดท้าย (SA) (ไตรมาส 3)--
ค: --
บราซิล PPI MoM (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาธนาคารกลางรัฐดัลลาส สหรัฐอเมริกา PCE YoY (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา เงินเฟ้อเบื้องต้น UMich 5-YearYoY (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีสถานภาพเบื้องต้น UMich ปัจจุบัน (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น UMich (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่วงหน้า 1 ปี UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความคาดหวังผู้บริโภค UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)--
ค: --
ค: --


ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
อัปเดตล่าสุด
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด

ไม่มีข้อมูล
นิวยอร์ค--12 พ.ย.--รอยเตอร์
ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นเช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป หลังจากตลาดหุ้นเพิ่งร่วงลงในวันพุธโดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงเกินคาด ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดันจาก หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ที่ดิ่งลง 7.1% หลังจากวอลท์ ดิสนีย์เปิดเผยรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ซึ่งรวมถึงรายได้จากสวนสนุกและยอดลูกค้าสตรีมมิงที่น่าผิดหวัง ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดทำการในวันที่ 11 พ.ย.เนื่องในวันทหารผ่านศึก และก็ไม่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมาในวันพฤหัสบดีด้วย ในขณะที่ฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาสสามใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้นจึงแทบไม่มีปัจจัยสำคัญเข้ามากระทบตลาดมากนักในวันพฤหัสบดี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.44% สู่ 35,921.23, ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 0.06% สู่ 4,649.27 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้น 0.52% สู่ 15,704.28 ทั้งนี้ หุ้น 6 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มวัสดุถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุด ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคถือเป็นกลุ่มที่ดิ่งลงมากที่สุด
หุ้นเติบโตได้รับแรงหนุนมากกว่าหุ้นคุณค่าในวันพฤหัสบดี ในขณะที่หุ้นกลุ่มที่มักปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทขนาดเล็กและหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป โดยดัชนีหุ้นบริษัทขนาดเล็กของสหรัฐปิดบวกขึ้น 0.82% และดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 1.94% ในวันพฤหัสบดี หลังจากเพิ่งดิ่งลงครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ในวันพุธ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ได้รับแรงหนุนในวันพฤหัสบดีจากหุ้นเอ็นวิเดีย คอร์ปที่ทะยานขึ้น 3.16% หลังจากบริษัทซัสเกฮันนาปรับขึ้นราคาเป้าหมายของหุ้นเอ็นวิเดีย
นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงนี้ ในขณะที่ใกล้จะถึงฤดูช้อปปิ้งช่วงปลายปีในสหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันศุกร์ และรอดูผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทกลุ่มค้าปลีกในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าด้วย ทั้งนี้ หุ้นดิลลาร์ดส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทห้างสรรพสินค้าพุ่งขึ้น 10.0% หลังจากดิลลาร์ดส์เปิดเผยตัวเลขรายได้และผลกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาด ส่วนหุ้นเมซีส์พุ่งขึ้น 3.6% และหุ้นนอร์ดสตรอมทะยานขึ้น 2% โดยบริษัทห้างสรรพสินค้าสองแห่งนี้ยังไม่ได้รายงานผลประกอบการออกมา
หุ้นเทสลาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วงลง 0.4% หลังจากมีข่าวว่านายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาขายหุ้นเทสลาออกมาเป็นมูลค่าราว 5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากเขาจัดทำโพลล์ทางทวิตเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์โหวตว่า เขาควรจะขายหุ้นราว 10% ของจำนวนหุ้นเทสลาที่เขาถือครองไว้หรือไม่ ทั้งนี้ หุ้นริเวียน ออโตโมทีฟ ซึ่งเป็นคู่แข่งของเทสลาพุ่งขึ้น 22.1% ส่วนหุ้นลูซิด กรุ๊ป อิงค์ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทะยานขึ้น 10.4%--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--17 ก.ย.--รอยเตอร์
ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนีลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างก่อนปิดตลาด หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และตัวเลขดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเปิดภาคเรียน และจากมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้มีบุตร แต่ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับทบทวนตัวเลขยอดค้าปลีกของเดือนก.ค.ลงจากเดิม โดยระบุว่ายอดค้าปลีกดิ่งลง 1.8% ในเดือนก.ค. จากเดิมที่เคยระบุว่าลดลงเพียง 1.1% ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดค้าปลีกอาจร่วงลง 0.8% ในเดือนส.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.18% สู่ 34,751.32; ดัชนี S&P 500 ปิดปรับลง 0.16% สู่ 4,473.75 และดัชนี Nasdaq ปิดบวกขึ้น 0.13% สู่ 15,181.92 ทั้งนี้ หุ้น 8 กลุ่มจาก 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มวัสดุถือเป็นกลุ่มที่ดิ่งลงมากที่สุด แต่ดัชนีหุ้นกลุ่มไมโครชิปปิดบวกขึ้น 0.23% และดัชนีหุ้นกลุ่มการขนส่งปรับขึ้นด้วยเช่นกัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกออนไลน์พุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. หลังจากดิ่งลง 4.6% ในเดือนก.ค. และรายงานตัวเลขนี้ช่วยหนุนหุ้นอะเมซอนดอทคอมให้ปิดตลาดบวกขึ้น 0.36% และการปรับขึ้นของหุ้นอะเมซอนก็มีส่วนช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ให้ปิดตลาดในแดนบวกด้วย ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยถือเป็นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในวันพฤหัสบดี โดยหุ้นแกป อิงค์ซึ่งเป็นผู้ขายเสื้อผ้าพุ่งขึ้น 1.6%, หุ้นเอทซี อิงค์ซึ่งเป็นบริษัทตลาดออนไลน์ทะยานขึ้น 3.1% และหุ้นทาเพสตรี อิงค์ซึ่งเป็นผู้ค้าสินค้าหรูหราพุ่งขึ้น 1.9%
นายไรอัน ดีทริค นักยุทธศาสตร์การลงทุนตลาดของบริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียลกล่าวว่า "ตัวเลขยอดค้าปลีกส่งสัญญาณในทางบวก และดูเหมือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ชะลอตัวลงอย่างรุนแรงเหมือนอย่างที่หลายคนเคยคาดการณ์ไว้" และเขากล่าวเสริมว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังคงก้าวไปข้างหน้า 2 ก้าว สลับกับก้าวถ้อยหลัง 1 ก้าว ถึงแม้มีความกังวลเรื่องโรคโควิด"
หุ้นบริษัทฟอร์ด มอเตอร์พุ่งขึ้น 1.4% หลังจากฟอร์ดประกาศแผนการที่จะปรับเพิ่มการผลิตรถปิกอัพไฟฟ้ารุ่น F-150--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--20 ส.ค.--รอยเตอร์
ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี หลังจากแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน ในขณะที่การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยชดเชยการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มวัสดุ ทางด้านนักลงทุนพยายามประเมินการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และประเมินว่าเมื่อใดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq ได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน ในขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเอ็นวิเดีย คอร์ปที่ทะยานขึ้น 4% ในวันพฤหัสบดี หลังจากบริษัทผู้ผลิตชิปแห่งนี้คาดการณ์ในเย็นวันพุธว่า รายได้ในไตรมาส 3 จะอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีท
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.19% สู่ 34,894.12, ดัชนี S&P 500 ปิดบวกขึ้น 0.13% สู่ 4,405.8 โดยดัชนี S&P 500 ดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วงแรก ก่อนจะลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้ และแกว่งตัวขึ้นลงระหว่างแดนบวกและแดนลบในระหว่างวัน ทางด้านดัชนี Nasdaq ปิดปรับขึ้น 0.11% สู่ 14,541.79 ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงราว 0.8% ในวันพฤหัสบดี แต่หุ้นกลุ่มปลอดภัยบางกลุ่มปรับขึ้น โดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บวกขึ้นราว 0.9%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกดิ่งลง 29,000 ราย สู่ 348,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ส.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. 2020 หรือจุดต่ำสุดรอบ 17 เดือน และถือเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 363,000 รายด้วย โดยรายงานนี้บ่งชี้ว่า การจ้างงานในสหรัฐอาจพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในเดือนส.ค. ทั้งนี้ หุ้นบริษัทเครือข่ายห้างสรรพสินค้าทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี โดยหุ้นเมซีส์ อิงค์พุ่งขึ้น 19.6% และหุ้นโคห์ลส์ คอร์ปทะยานขึ้น 7.3% หลังจากบริษัททั้งสองปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ยอดขายรายปี
ตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่งดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 27-28 ก.ค. และรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุเงื่อนไขสำคัญในการปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ ทั้งนี้ นายเจฟฟ์ มอร์ติเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายแผนยุทธศาสตร์การลงทุนของแบงก์ ออฟ นิวยอร์ค เมลลอน เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า "มีการนำเงินเข้ามาลงทุนในตลาดเมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นร่วงลง และตลาดก็เผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้ในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมา" โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมาแล้วราว 100% จากจุดต่ำสุดของเดือนมี.ค. 2020 โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ, ฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่ง และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของเฟด
นักลงทุนจะรอดูการประชุมวิจัยประจำปีที่เฟดจะจัดขึ้นที่แจ็คสัน โฮลในรัฐไวโอมิงในวันที่ 26-28 ส.ค. เพื่อดูว่าเฟดจะดำเนินขั้นตอนใดต่อไป ทั้งนี้ นายมอร์ติเมอร์กล่าวว่า "ตัวแปรสำคัญทางเศรษฐกิจยังคงเป็นภาวะเงินเฟ้อ โดยประเด็นสำคัญก็คือว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเพียงชั่วคราว หรือว่าพุ่งขึ้นอย่างถาวร และเฟดจะยอมรับอัตราเงินเฟ้อได้สูงถึงระดับใดเพื่อที่จะได้บรรลุเป้าหมายด้านภาวะการจ้างงานเต็มที่"--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน