ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน












สัญญาณ VIP
ทั้งหมด
ทั้งหมด



สหรัฐอเมริกา ค่าเฉลี่ยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก4 สัปดาห์ (SA)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อรายสัปดาห์ (SA)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา Ivey PMI (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา Ivey PMI (Not SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อสินค้าคงทนนอกกระทรวงกลาโหมที่ได้แก้ไข MoM (ไม่รวมเครื่องบิน)(SA) (ก.ย.)ค:--
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM(ยกเว้นการขนส่ง) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา คำสั่งซื้อโรงงาน MoM(ยกเว้นภาคกลาโหม) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การเปลี่ยนแปลงสต็อกก๊าซธรรมชาติประจำสัปดาห์ของ EIAค:--
ค: --
ค: --
ซาอุดิอาระเบีย การผลิตน้ำมันดิบค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การถือครองธนารักษ์สหรัฐฯของธนาคารกลางต่างประเทศรายสัปดาห์ค:--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย อัตราขายคืนค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย ดอกเบี้ยอ้างอิงค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย อัตราขายคืนค:--
ค: --
ค: --
อินเดีย อัตราเงินสดสำรองค:--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น อินดิเคเตอร์ชั้นนำเบื้องต้น (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax YoY (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax MoM (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส บัญชีเดินสะพัด (Not SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
อิตาลี ดัชนียอดค้าปลีก MoM (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน GDP Final YoY (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน GDP Final QoQ (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน QoQ (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงานสุดท้าย (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
บราซิล PPI MoM (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาธนาคารกลางรัฐดัลลาส สหรัฐอเมริกา PCE YoY (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา เงินเฟ้อเบื้องต้น UMich 5-YearYoY (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีสถานภาพเบื้องต้น UMich ปัจจุบัน (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น UMich (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่วงหน้า 1 ปี UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความคาดหวังผู้บริโภค UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)--
ค: --
ค: --


ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
อัปเดตล่าสุด
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด

ไม่มีข้อมูล
กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--รอยเตอร์
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวในวันอังคาร แต่ดอลลาร์ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับลง 0.2% ในเดือนเม.ย. ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดค้าปลีกอาจปรับขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. โดยยอดค้าปลีกในเดือนพ.ค.ได้รับแรงกดดันจากยอดขายตามปั๊มน้ำมันที่ดิ่งลง 2.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นผลจากการร่วงลงของราคาน้ำมันเบนซิน หลังจากยอดขายตามปั๊มน้ำมันเพิ่งพุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนเม.ย. โดยยอดค้าปลีกเป็นตัวเลขที่ครอบคลุมภาคสินค้าเป็นส่วนใหญ่ และเป็นตัวเลขที่ไม่ได้ปรับตามภาวะเงินเฟ้อ ทั้งนี้ รายงานยอดค้าปลีกนี้บ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางการบริโภคในสหรัฐ และสิ่งนี้ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยนักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดการณ์ในวันอังคารว่า มีโอกาส 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.หรือก่อนหน้านั้น โดยโอกาสดังกล่าวปรับขึ้นจากระดับ 63% ที่เคยคาดไว้ในวันจันทร์ Eikon source text
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 105.27 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ซึ่งเท่ากับระดับในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 157.85 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 157.71 เยน และเทียบกับระดับ 158.26 เยนที่เคยทำไว้ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. หรือจุดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0738 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยขยับขึ้นจาก 1.0734 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ หลังจากปรับลงแตะ 1.0708 ดอลลาร์ในระหว่างวัน และเทียบกับระดับ 1.0666 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทเอ็นวิเดียที่ปิดพุ่งขึ้น 3.5% และสามารถทะยานขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ที่ 136.33 ดอลลาร์ได้ในระหว่างวัน โดยการพุ่งขึ้นของหุ้นเอ็นวิเดียส่งผลให้เอ็นวิเดียสามารถก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกแทนที่บริษัทไมโครซอฟท์ได้สำเร็จ ในขณะที่เอ็นวิเดียมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 3.22 ล้านล้านดอลลาร์ ทางด้านหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปแห่งอื่น ๆ พุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน และส่งผลให้ดัชนีฟิลาเดลเฟียสำหรับหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปของสหรัฐปิดทะยานขึ้น 1.35% และสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ในระหว่างวันได้ด้วย นอกจากนี้ หุ้นบริษัทควอลคอมม์, อาร์ม โฮลดิงส์ และไมครอนก็ทะยานขึ้น 2.1-8.7% ในวันอังคาร และการุพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปก็ช่วยบดบังแรงกดดันที่ตลาดหุ้นได้รับจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทแอลฟาเบท, อะเมซอน และเมตา แพลตฟอร์มส์ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินปิดบวกขึ้น 0.64% และถือเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่ที่ปรับขึ้นมากที่สุดในวันอังคาร ส่วนอันดับสองคือดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปิดบวกขึ้น 0.61% ส่วนหุ้นสองกลุ่มใหญ่ที่ร่วงลงมากที่สุดในวันอังคารคือหุ้นกลุ่มบริการการสื่อสาร และหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ทางด้านธนาคารซิตี้กรุ๊ปได้ปรับขึ้นเป้าหมายช่วงสิ้นปีสำหรับดัชนี S&P 500 สู่ 5,600 จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5,100 Eikon source text
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.15% สู่ 38,834.86
ดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น 0.25% สู่ 5,487.03 ซึ่งถือเป็นสถิติระดับปิดสูงสุดใหม่
ดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 0.03% สู่ 17,862.23 ซึ่งถือเป็นการทำสถิติระดับปิดสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศในยุโรปและในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งอาจจะเป็นภัยคุกคามต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก โดยข่าวที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันขึ้นในวันอังคารรวมถึงข่าวที่ว่า ยูเครนได้ใช้โดรนโจมตีแท็งก์เก็บเชื้อเพลิงที่สถานีขนส่งน้ำมันในเมืองอาซอฟ ซึ่งเป็นเมืองท่าทางภาคใต้ของรัสเซีย และข่าวที่ว่านายอิสราเอล แคทซ์ ซึ่งเป็นรมว.ต่างประเทศของอิสราเอลกล่าวเตือนว่า อิสราเอลอาจจะตัดสินใจในเร็ว ๆ นี้ในเรื่องการทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ทั้งนี้ หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐพุ่งขึ้น 2.264 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินในคลังสหรัฐดิ่งลง 1.077 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมัน distillates ในคลังสหรัฐปรับขึ้น 538,000 บาร์เรล Eikon source text
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนก.ค.ทะยานขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.5% มาปิดตลาดที่ 81.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.3% มาปิดตลาดที่ 85.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 9.46 ดอลลาร์ สู่ 2,328.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกที่อ่อนแอเกินคาด และตัวเลขดังกล่าวช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยตัวเลขดังกล่าวมีส่วนกดดันดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และมีส่วนกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ปรับลงด้วย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับลงจาก 4.279% ในช่วงท้ายวันจันทร์ สู่ 4.217% ในช่วงท้ายวันอังคาร Eikon source text
--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--รอยเตอร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ย. โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกปรับขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.8% ในเดือนส.ค. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +0.3% สำหรับเดือนก.ย. ในขณะที่ภาคครัวเรือนปรับเพิ่มการซื้อยานยนต์และใช้จ่ายเงินมากยิ่งขึ้นในร้านอาหารและบาร์ โดยยอดขายในบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ส่วนยอดขายที่ร้านอาหารและบาร์ปรับขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดในวันพฤหัสบดีที่ 19 ต.ค. ก่อนที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเข้าสู่ช่วงของการงดแสดงความเห็นต่อสาธารณชนตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. และเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. โดยนายโธมัส บาร์คิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวในวันอังคารว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานกำลังสร้างแรงกดดันในทางลบต่ออุปสงค์ แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อการกำหนดนโยบายของเฟดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า Eikon source text
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 106.22 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยขยับลงจาก 106.26 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ และเทียบกับระดับ 107.34 ที่เคยทำไว้ในวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2022
ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 149.80 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 149.50 เยน
ยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0575 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยปรับขึ้นจาก 1.0558 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ และเทียบกับระดับ 1.0448 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2022
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร ส่วนดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐปิดเกือบทรงตัว และดัชนี Nasdaq ปรับลงในวันอังคาร โดยตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีทะยานขึ้นจาก 4.71% ในช่วงท้ายวันจันทร์ สู่ 4.847% ในช่วงท้ายวันอังคาร หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดค้าปลีกปรับขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.8% ในเดือนส.ค. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ +0.3% สำหรับเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดหุ้นก็ได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปด้วย หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศว่า ทางรัฐบาลวางแผนจะระงับการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงไปยังจีน โดยข่าวนี้ส่งผลให้ดัชนีฟิลาเดลเฟียสำหรับหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐร่วงลง 0.8% และส่งผลให้หุ้นบริษัทเอ็นวิเดีย ซึ่งถือเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกดิ่งลง 4.7% ถึงแม้เอ็นวิเดียคาดว่ามาตรการจำกัดการส่งออกนี้จะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อผลประกอบการของเอ็นวิเดียในระยะอันใกล้นี้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่บริษัทสหรัฐหลายแห่งรายงานออกมา ซึ่งรวมถึงธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกาที่มีราคาหุ้นพุ่งขึ้น 2.3% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐปรับขึ้น 0.6% ในวันอังคาร Eikon source text
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 0.04% สู่ 33,997.65
ดัชนี S&P 500 ปิดขยับลง 0.01% สู่ 4,373.2
ดัชนี Nasdaq ปิดปรับลง 0.25% สู่ 13,533.75
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ทรงตัวในวันอังคาร แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น ในขณะที่นักลงทุนรอดูว่าความพยายามทางการทูตของสหรัฐและการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันพุธจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้สงครามในภูมิภาคตะวันออกกลางลุกลามออกไปได้หรือไม่ โดยราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในช่วงแรก หลังจากนายโธมัส บาร์คิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวในวันอังคารว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานกำลังสร้างแรงกดดันในทางลบต่ออุปสงค์ แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อการกำหนดนโยบายของเฟดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนเข้ามาในวันอังคารด้วยเช่นกัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด ทั้งนี้ นายอามิน นัสเซอร์ ซีอีโอของบริษัทซาอุดิ อารามโค ซึ่งถือเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า ทางบริษัทสามารถปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ถ้าหากมีความจำเป็น โดยทางบริษัทมีกำลังการผลิตส่วนเกิน 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเขากล่าวว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มว่าอาจจะปรับขึ้นสู่ 103 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทางด้านการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ต.ค. หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐดิ่งลงราว 4.4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินในคลังสหรัฐรูดลงราว 1.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมัน distillate ในคลังสหรัฐลดลงราว 610,000 บาร์เรล Eikon source text
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนพ.ย.ทรงตัวที่ 86.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 25 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 89.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 3.63 ดอลลาร์ สู่ 1,923.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร และพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 4% จากช่วงต้นเดือนต.ค. ในขณะที่เทรดเดอร์จับตาดูความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และเทรดเดอร์รอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดในวันพฤหัสบดีที่ 19 ต.ค. ก่อนที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเข้าสู่ช่วงของการงดแสดงความเห็นต่อสาธารณชนตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. และเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ทั้งนี้ ธนาคารคอมเมอร์ซแบงก์ยังคงคาดการณ์ตามเดิมว่า ราคาทองจะอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้ และ 2,100 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี 2024 โดยคอมเมอร์ซแบงก์ระบุว่า ถ้าหากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางไม่ได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ราคาทองก็มีแนวโน้มว่าอาจปรับขึ้นเพียงในวงจำกัด ในขณะที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเวลาที่ช้าเกินคาด ทางด้านนายเอเวอเรทท์ มิลแมน หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทเกนส์วิลล์ คอยน์กล่าวว่า ถ้าหากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงดำเนินต่อไป ราคาทองก็จะยังคงเคลื่อนตัวอยู่เหนือ 1,900 ดอลลาร์ Eikon source text
--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน