ตลาด
ข่าวสาร
การวิเคราะห์
ผู้ใช้
24x7
ปฏิทินเศรษฐกิจ
แหล่งเรียนรู้
ข้อมูล
- ชื่อ
- ค่าล่าสุด
- ครั้งก่อน












สัญญาณ VIP
ทั้งหมด
ทั้งหมด



สหราชอาณาจักร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย Halifax YoY (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส บัญชีเดินสะพัด (Not SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ฝรั่งเศส การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
อิตาลี ดัชนียอดค้าปลีก MoM (SA) (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน GDP Final YoY (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน GDP Final QoQ (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน QoQ (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน การจ้างงานสุดท้าย (SA) (ไตรมาส 3)ค:--
ค: --
บราซิล PPI MoM (ต.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา เงินเฟ้อเบื้องต้น UMich 5-YearYoY (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีสถานภาพเบื้องต้น UMich ปัจจุบัน (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น UMich (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่วงหน้า 1 ปี UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความคาดหวังผู้บริโภค UMich (เบื้องต้น) (ธ.ค.)ค:--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ค่าจ้าง MoM (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดุลการค้า (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น GDP Nominal แก้ไขQoQ (ไตรมาส 3)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น ดุลการค้า (SA)(ข้อมูลศุลกากร) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
ญี่ปุ่น GDP ประจำปี (แก้ไข) QoQ (ไตรมาส 3)--
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (CNH) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (USD) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
เยอรมนี การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
ยูโรโซน ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน Sentix (ธ.ค.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา อินดิเคเตอร์ชั้นนำ MoM (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
แคนาดา ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจแห่งชาติ--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาธนาคารกลางรัฐดัลลาส สหรัฐอเมริกา PCE YoY (ก.ย.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา อัตราผลตอบแทนการประมูลพันธบัตรรัฐบาล 3-ปี--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีกรวม BRC YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีก Like-For-Like BRC YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
ออสเตรเลีย อัตราหลัก(ดอกเบี้ยเงินกู้)O/N--
ค: --
ค: --
คำแถลงอัตราของธนาคารกลางออสเตรเลีย
ประธานธนาคารกลางออสเตรเลีย Bullock จัดงานแถลงข่าวนโยบายการเงิน
เยอรมนี อัตราการส่งออก MoM (SA) (ต.ค.)--
ค: --
ค: --
สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก NFIB (SA) (พ.ย.)--
ค: --
ค: --
เม็กซิโก CPI หลัก YoY (พ.ย.)--
ค: --
ค: --


ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน
ทัศนคติล่าสุด
ทัศนคติล่าสุด
หัวข้อยอดนิยม
คอลัมนิสต์ยอดนิยม
อัปเดตล่าสุด
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
โครงการพันธมิตร
ดูผลการค้นหาทั้งหมด

ไม่มีข้อมูล
นิวยอร์ค--29 ธ.ค.--รอยเตอร์
กองทุนอาร์ค อินโนเวชันของนางแคธี วูดเคยมีขนาดพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงที่เกิดวิกฤติโรคโควิด-19 แต่กองทุนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะปิดตลาดปีนี้ด้วยการครองตำแหน่งเกือบต่ำสุดในบรรดากองทุนรวมทั้งหมดในสหรัฐ หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มเติบโตสูง ทั้งนี้ กองทุนอาร์ค อินโนเวชันดิ่งลงมาแล้วราว 67% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐรูดลงเพียง 20% จากช่วงต้นปีนี้ โดยการดิ่งลง 67%ของกองทุนอาร์ค อินโนเวชันส่งผลให้กองทุนนี้ดิ่งลงมากที่สุดในบรรดากองทุนหุ้นเติบโตขนาดกลาง 537 แห่งในสหรัฐ และส่งผลให้กองทุนนี้ครองตำแหน่งเกือบต่ำสุดในบรรดากองทุนหุ้นทั้งหมดในสหรัฐที่บริษัทมอร์นิงสตาร์ติดตามข้อมูลอยู่
ดัชนี S&P 500 อาจจะปิดตลาดปีนี้ด้วยการดิ่งลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 และปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้กองทุนส่วนใหญ่ขาดทุนในปี 2022 โดยนายไบรอัน จาค็อบเสน นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทออลสปริง โกลบัล อินเวสท์เมนท์กล่าวว่า "ผู้จัดการกองทุนคาดการณ์ผิดพลาดในเรื่องภาวะเงินเฟ้อในปีนี้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เองก็คาดการณ์ผิดพลาดในเรื่องภาวะเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน" ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 4.25% นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เพื่อพยายามควบคุมภาวะเงินเฟ้อ และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลลบเป็นอย่างมากต่อหุ้นกลุ่มเติบโตสูง เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้หุ้นเติบโตมีความน่าดึงดูดน้อยลง เนื่องจากมูลค่าของหุ้นเติบโตมักจะขึ้นอยู่กับผลกำไรในอนาคต นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและตราสารหนี้อื่น ๆ มีความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลลบต่อความต้องการลงทุนในหุ้น ทางด้านกองทุนของนางวูดเน้นการลงทุนในหุ้นเติบโต
ข้อมูลของบริษัทมอร์นิงสตาร์แสดงให้เห็นว่า กองทุนของนางวูดติดอันดับที่ 3,544 ในบรรดากองทุนรวมหุ้นสหรัฐที่ลงทุนเชิงรุกทั้งหมด 3,552 แห่ง ส่วนกองทุนที่ติดอันดับต่ำสุดในกลุ่มนี้คือกองทุนโวยา รัสเซีย ฟันด์ที่ดิ่งลง 92% จากช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้น 10 อันดับแรกที่กองทุนอาร์ค อินโนเวชันถือครองไว้มากที่สุดนั้น หุ้นทั้ง 10 ตัวนี้ต่างก็ดิ่งลงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30% จากช่วงต้นปีนี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชันส์, หุ้นเทสลา และหุ้นบล็อค อิงค์ (ซึ่งมีชื่อเดิมว่า "สแควร์") ที่ต่างก็รูดลงมาแล้วกว่า 60% จากช่วงต้นปีนี้ ในขณะที่หุ้นบริษัทเทลาด็อค เฮลธ์และหุ้นบริษัทโรคูต่างก็ดิ่งลงมาแล้วกว่า 70% จากช่วงต้นปีนี้
นางวูดคาดการณ์ผิดพลาดในเรื่องภาวะเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา โดยเธอเคยกล่าวเมื่อ 1 ปีก่อนว่า ภาวะเงินฝืดถือเป็นความเสี่ยงที่แท้จริงสำหรับตลาดในช่วงหนึ่งปีข้างหน้า และเธอได้กล่าวในเดือนก.ย.ปีนี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐได้พุ่งขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปีในบางเดือนในปี 2022 ทั้งนี้ นางวูดเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 2020 เพราะหุ้นบริษัทซูมและบริษัทเทลาด็อคในพอร์ตลงทุนของเธอมีราคาพุ่งขึ้นสูงมาก โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงนั้น โดยสถานการณ์ในตอนนั้นส่งผลให้กองทุนของเธอมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากถึง 2.76 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี กองทุนดังกล่าวมีขนาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารต่ำกว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
กองทุนอื่น ๆ ที่ลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างก็ดิ่งลงอย่างรุนแรงเช่นกันในปี 2022 โดยกองทุน Morgan Stanley Insight I ซึ่งมีขนาด 1.4 พันล้านดอลลาร์ และลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในบริษัทสโนว์เฟลคที่ทำธุรกิจคลาวด์ ดิ่งลงมาแล้ว 61.3% จากช่วงต้นปีนี้ และถือเป็นหนึ่งในกองทุนขนาดใหญ่ที่ดิ่งลงมากที่สุดในปีนี้ ส่วนกองทุนเซเวนเบอร์เกน จีเนีย ซึ่งมีขนาด 59 ล้านดอลลาร์ และลงทุนเป็นเงินจำนวนมากในบริษัทเทสลา รูดลงมาแล้ว 59% จากช่วงต้นปีนี้ และถือเป็นหนึ่งในกองทุนกระจายความเสี่ยงที่ดิ่งลงมากที่สุดในปีนี้ ทั้งนี้ ในบรรดากองทุนรวมหุ้นที่มีการบริหารเชิงรุกและมีผลประกอบการดีที่สุด 15 อันดับแรกในปีนี้นั้น กองทุนส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานหรือสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้นกองทุนกลุ่มนี้จึงได้รับประโยชน์จากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันและราคาวัตถุดิบอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงกองทุนอินเวสโก เอ็นเนอร์จีที่พุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 49% จากช่วงต้นปีนี้ และครองอันดับหนึ่งในบรรดากองทุนแบบกระจายความเสี่ยง (diversified) ในอันดับที่จัดทำโดยบริษัทมอร์นิงสตาร์ในช่วงกลางเดือนธ.ค. ทางด้านกองทุน MicroSectors U.S. Big Oil 3x Leveraged ETN ซึ่งลงทุนในบริษัทเชฟรอน และบริษัทเอ็กซอน โมบิลในกลุ่มน้ำมัน ทะยานขึ้นมาแล้ว 172% จากช่วงต้นปีนี้ และครองอันดับหนึ่งในบรรดากองทุนทั้งหมดในอันดับที่จัดทำโดยมอร์นิงสตาร์--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
นิวยอร์ค--26 ธ.ค.--รอยเตอร์
นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐระบุว่า นักลงทุนกำลังตั้งความหวังว่า ตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะพุ่งขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ตามแบบที่เรียกว่า Santa Claus rally และการพุ่งขึ้นดังกล่าวอาจจะช่วยบรรเทาความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ และอาจจะถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่สดใสสำหรับปี 2023 ทั้งนี้ Santa Claus rally คือการที่ตลาดหุ้นสหรัฐมักจะพุ่งขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของเดือนธ.ค. และ 2 วันทำการแรกของเดือนม.ค. โดยข้อมูลจาก CFRA Research แสดงให้เห็นว่า เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตลาดหุ้นสหรัฐมาแล้วราว 75% ของช่วงเวลาในอดีต และการที่ตลาดหุ้นมักจะพุ่งขึ้นในช่วงเวลานี้ของปีมีสาเหตุมาจากสภาพคล่องที่ระดับต่ำ, การลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี และการนำเงินโบนัสช่วงปลายปีมาลงทุน
วันศุกร์ที่ 23 ธ.ค.ถือเป็นวันเริ่มต้นสำหรับช่วงเวลา Santa Claus rally ในปีนี้ และช่วงเวลาดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันทำการวันที่ 2 ของตลาดในปี 2023 โดย Stock Trader's Almanac ระบุว่า ปรากฏการณ์ Santa Claus rally นี้ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลา 7 วันทำการดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 1969 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงมาแล้วราว 6% จากช่วงต้นเดือนธ.ค.ปีนี้ ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐมักจะพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค.ของแต่ละปี โดยในเดือนนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงกดดันจากการรูดลงของหุ้นบริษัทเทสลา, หุ้นบริษัทอะเมซอนดอทคอม และหุ้นบริษัทอื่น ๆ ที่เคยนำตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐยังดิ่งลงมาแล้วเกือบ 20% จากช่วงต้นปีนี้ด้วย และมีแนวโน้มว่าอาจจะปิดตลาดปีนี้ด้วยการดิ่งลงรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
บริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียลระบุว่า ข้อมูลสถิตินับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมาบ่งชี้ว่า ในปีใดก็ตามที่ไม่เกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในเดือนธ.ค. ตลาดหุ้นก็มักจะปรับขึ้นน้อยกว่าปกติในปีถัดไป โดยดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง 4.1% ในปีใดก็ตามที่ไม่เกิดเหตุการณ์ Santa rally ในปีก่อนหน้านั้น แต่ดัชนีปรับขึ้นเฉลี่ย 10.9% ในปีใดก็ตามที่เกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในปีก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐยังร่วงลงเฉลี่ย 0.3% ในเดือนม.ค.ถ้าหากไม่เกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในเดือนก่อนหน้านั้นด้วย แต่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในเดือนม.ค. ถ้าหากเกิดปรากฏการณ์ Santa rally ในเดือนก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ นายคีธ เลอร์เนอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัททรูอิสต์ แอดไวซอรี เซอร์วิสเซสกล่าวว่า "เมื่อใดก็ตามที่ไม่เกิดปรากฏการณ์ Santa Claus rally นั่นก็มักจะหมายความว่ามีปัจจัยบางอย่างในตลาดหุ้นที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกสับสน หรือมีอุปสรรคบางอย่างที่ขัดขวางการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น และบรรยากาศในทางลบนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเข้าสู่ปีใหม่"
ดัชนี S&P 500 เคยปิดตลาดเดือนธ.ค.ในแดนลบมาแล้วเพียง 18 ครั้งเท่านั้นนับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.6% ในเดือนธ.ค.ของแต่ละปี ซึ่งส่งผลให้เดือนธ.ค.ถือเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเฉลี่ยมากที่สุดในแต่ละปี ส่วนอัตราการปรับขึ้นโดยเฉลี่ยของตลาดหุ้นในแต่ละเดือนอยู่ที่ 0.7% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปิดตลาดเดือนธ.ค.ปีนี้ในแดนลบ หลังจากนักลงทุนเทขายหุ้นสุทธิ 4.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า แรงเทขายนี้เกิดจาก "tax loss harvesting" หรือการที่นักลงทุนขายสินทรัพย์ออกมาในราคาขาดทุน เพื่อจะได้นำไปใช้ลดหย่อนภาษีกำไรจากการขายทรัพย์สิน ทางด้านนักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทดาตาเทรคระบุว่า ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์ Santa Claus rally ในเดือนนี้ สิ่งนี้ก็จะถือเป็นสัญญาณในทางลบสำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสหรัฐในปี 2023
สหรัฐมีกำหนดจะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ตัวในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยและยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐ โดยมีแนวโน้มว่าสภาพคล่องในตลาดหุ้นสหรัฐจะดิ่งลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดของปีในสัปดาห์นี้ด้วย เนื่องจากนักลงทุนหลายรายออกไปพักผ่อนสำหรับช่วงวันหยุดแล้ว ทั้งนี้ แนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากประเด็นที่ว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐจะชะลอตัวลงต่อไปหรือไม่ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วกว่าที่เฟดเคยประเมินไว้หรือไม่ โดยนายแซม สโตวอลล์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัท CFRA กล่าวว่า "ถ้าหากนักลงทุนเริ่มมองเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วเกินคาด และคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปีหน้า" ตลาดหุ้นก็จะอาจจะปรับตัวแตกต่างกันในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังของปีหน้า และอาจจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกอย่างมากในปีหน้า--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร หลังจากที่ร่วงลง 4 วันติดต่อกัน แต่นักลงทุนกังวลกับการใช้จ่ายที่ซบเซาในช่วงวันหยุด และผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้เพิ่มแรงกดดัน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างไม่คาดคิดด้วยการปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวเพิ่มขึ้นอีกได้ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับแผนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปนั้นกดดันหุ้นอย่างหนักมาตั้งแต่การประชุมนโยบายในสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 92.2 จุด หรือ 0.28% ที่ 32,840.74, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.96 จุด หรือ 0.10% สู่ระดับ 3,821.62 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.08 จุด หรือ 0.01% สู่ 10,547.11
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง หลังการดำเนินการที่ไม่คาดคิดของบีโอเจ โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 3.71%
ในบรรดาหุ้นหลัก 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 นั้น หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ส่วนในบรรดาหุ้น 4 กลุ่มที่ร่วงลงนั้น หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงมากที่สุด
ข้อมูลระบุว่า ยอดขายบ้านเดี่ยวในสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพ.ย. และใบอนุญาตเพื่อการก่อสร้างในอนาคตร่วงลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนองที่สูงขึ้นยังคงทำให้กิจกรรมซื้อขายในตลาดบ้านตกต่ำลง--จบ--
(รอยเตอร์ โดย เสาวณีย์ เอกปัญญาชัย แปลและเรียบเรียง)
แซนโฮเซ แคลิฟอร์เนีย, Nov. 10, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — ในวันนี้ Zoom Video Communications, Inc. ได้เริ่มต้น Zoomtopia 2022 ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีของบริษัทในการเปิดเผยนวัตกรรมใหม่เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์การทำงานที่ทันสมัย และเฉลิมฉลองอนาคตของการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน Zoomtopia 2022 นำเสนอประสบการณ์ไฮบริดเป็นครั้งแรก ซึ่งขับเคลื่อนโดย Zoom Events โซลูชันการจัดการเหตุการณ์เสมือนจริงแบบรวมทุกอย่างไว้ในหนึ่งเดียวของ Zoom
“ในขณะที่องค์กรระดับโลกกำลังปรับตัวให้เข้ากับงานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับวิธีที่เกิดขึ้น เวลาที่เกิดขึ้น และสถานที่ที่เกิดขึ้นนั้นเอง การให้การเชื่อมต่อของมนุษย์มีความสำคัญสูงสุดในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจไปข้างหน้าก็ยังเป็นสิ่งสำคัญครับ” Eric S. Yuan ซีอีโอของ Zoom กล่าว “Zoom สร้างมาเพื่อให้การเชื่อมต่อทุกประเภทนั้นเป็นไปได้ มีประสิทธิภาพ และมีความหมาย ทีมงานของเราได้สร้างและเปิดตัวฟีเจอร์และการปรับปรุงมากกว่า 1,500 รายการบนแพลตฟอร์ม Zoom ในปีนี้ ซึ่งทำให้วิธีที่ผู้คนเชื่อมต่อกัน องค์กร และลูกค้าของพวกเขาก้าวหน้าขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเปิดประตูสู่ความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกันครับ”
“ไม่เคยมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของการทำงานมากไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแล้ว การทำงานได้จากทุกที่ สำนักงานแบบไฮบริด และเทรนด์อื่น ๆ ได้สร้างชุดคำถามที่ซับซ้อนซึ่งผู้นำธุรกิจและไอทีจำเป็นต้องหาคำตอบ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ก็มีสิ่งหนึ่งครับที่แน่นอน และนั่นก็คือเครื่องมือการทำงานร่วมกันจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้พนักงานเชื่อมต่อถึงกัน” Zeus Kerravala นักวิเคราะห์หลักของ ZK Research กล่าว “Zoom ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจากการเป็นบริษัทจัดการประชุมเฉพาะกลุ่มไปสู่แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันในวงกว้างที่มอบประสบการณ์พนักงานและลูกค้าที่ไม่มีใครเทียบได้ และช่วยให้องค์กรตอบสนองความต้องการในการทำงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
“ทีมงานของเราเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันบน Zoom ทำให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราสามารถนำเสนอเนื้อหาระดับโลกจากแบรนด์อันเป็นสัญลักษณ์ของเราต่อไปได้ ทั้ง HBO, Warner Bros., CNN และ Food Network และนำเสนอตัวละครอันเป็นที่รักอย่าง Batman, Superman, Looney Tunes และ Harry Potter ต่อไปด้วย” Dave Duvall, CIO - Technology & Operations, Warner Bros. Discovery กล่าว “เราสามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อย ๆ ด้วย Zoom โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตที่นอกเหนือจากการประชุม ด้วยผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Zoom Phone, Zoom Rooms และ Zoom Team Chat แพลตฟอร์มทั้งหมดได้ขยายขีดความสามารถของเราในการทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อกันภายในองค์กร”
ได้มีการประกาศวัตกรรมของแพลตฟอร์ม Zoom ที่ Zoomtopia Zoom ได้เปิดตัวข้อเสนอใหม่หลายรายการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจและบุคคล เพื่อก้าวไปสู่ยุคใหม่ของการสื่อสาร
ประกาศล่าสุดบางส่วนนั้น ได้แก่ :
เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับนวัตกรรมเหล่านี้และคุณลักษณะการทำงานแบบไฮบริดอื่น ๆ
สร้างเพื่อเชื่อมต่อและเพิ่มมูลค่าของ Zoom นักพัฒนาสามารถใช้ Zoom APIs, SDKs อีกทั้งเครื่องมือและทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสร้างแอปและการผสานรวมกับ Zoom หรือใช้เทคโนโลยีหลักของ Zoom เพื่อขับเคลื่อนโซลูชันที่เน้นวิดีโอเป็นหลักที่เป็นนวัตกรรมให้กับกรณีการใช้งานใด ๆ ก็ตาม
นักพัฒนาสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นบน Zoom ด้วย:
ฟังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่นักพัฒนาสามารถเพิ่มพลังของ Zoom ด้วยการอัปเดตใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์ม Zoom Developer Platform และ Zoom Apps ได้ที่ Developer Summit ที่ Zoomtopia
รับชมสด Zoomtopia เป็นประสบการณ์ไฮบริดระยะเวลาสองวันที่โฮสต์บนแพลตฟอร์ม Zoom Events ซึ่งประกอบด้วยวิทยากรที่ชวนกระตุ้นความคิด ผู้นำทางธุรกิจ และการปรากฏตัวของคนดัง และรวมถึงโอกาสมากมายในการสร้างเครือข่าย การทำงานร่วมกัน และเรียนรู้อีกด้วย รับชมสด เพื่อรับเนื้อหาอันน่าตื่นเต้นทั้งหมด
เกี่ยวกับ Zoom
Zoom เหมาะสำหรับคุณ Zoom เป็นพื้นที่ที่คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่น แบ่งปันความคิด วางแผน และสร้างอนาคตที่ถูกจำกัดด้วยจินตนาการของคุณเท่านั้น แพลตฟอร์มการสื่อสารที่ราบรื่นของเราเป็นเพียงแพลตฟอร์มเดียวที่เริ่มต้นด้วยการมีวิดีโอเป็นรากฐาน และเราได้เป็นผู้กำหนดมาตรฐานสำหรับนวัตกรรมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราจึงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่าย ปรับขนาดได้ และปลอดภัยสำหรับทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็ก และบุคคลทั่วไป Zoom ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 มีการซื้อขายต่อสาธารณะ และมีสำนักงานใหญ่ในซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย เยี่ยมชม zoom.com และติดตาม @zoom
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Zoom
Candace Dean
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กร
press@zoom.us
นิวยอร์ค--6 ก.ค.--รอยเตอร์
ความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนบางรายโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเติบโตและกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มที่เคยพุ่งสูงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้จัดการกองทุนกลุ่มนี้คาดว่า หุ้นเหล่านี้อาจจะปรับตัวได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ หุ้นบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์, แอปเปิล และแอลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดิ่งลงในระดับที่มากกว่าหรือเท่ากับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากหุ้นเหล่านี้เคยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าดัชนีตลาดหุ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี หุ้นเติบโตมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ และด้วยเหตุนี้นักลงทุนบางรายจึงเชื่อว่า บริษัทในกลุ่มเติบโตที่มีอัตราผลกำไรสูงมาก อาจจะมีราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมได้ด้วย ถ้าหากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในอนาคต ทั้งนี้ นางไซรา มาลิค หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัทนูวีนกล่าวว่า "เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความเปราะบางในการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ดังนั้นคุณจึงควรจะเลือกลงทุนในบริษัทที่อยู่ในสถานะที่ดีมากในภาคเทคโนโลยี" โดยนางมาลิคได้ปรับเพิ่มสถานะการลงทุนในบริษัทอะเมซอนดอทคอม และบริษัทเซลส์ฟอร์ซดอทคอมในช่วงที่ผ่านมา และเธอกล่าวเสริมว่า บริษัทที่ไม่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรจะยังคงได้รับแรงกดดัน
กระแสการลงทุนในหุ้นเหล่านี้ยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยผลสำรวจล่าสุดของแบงก์ ออฟ อเมริกา โกลบัล รีเสิร์ชระบุว่า ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขึ้นเพียง 0.07% และยังคงคาดการณ์ในทางลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวม อย่างไรก็ดี บริษัทแวนดา รีเสิร์ชระบุว่า นักลงทุนรายย่อยได้เข้าช้อนซื้อหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงที่ราคาดิ่งลงก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิล ทั้งนี้ ดัชนี Russell 1000 สำหรับหุ้นเติบโตของสหรัฐดิ่งลง 28.4% ในช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่ดัชนี Russell 1000 สำหรับหุ้นคุณค่าของสหรัฐรูดลงเพียง 13.9% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยหุ้นคุณค่านี้ครอบคลุมหุ้นกลุ่มพลังงานที่มักจะปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจด้วย ทางด้านดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลง 20.7% ในครึ่งปีแรก ซึ่งถือเป็นอัตราการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา
กองทุน ARK Innovation ETF ของนางแคธี วูด ดิ่งลงราว 57.7% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยกองทุนแห่งนี้ถือครองหุ้นบริษัทใหม่ในภาคเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทซูม วิดีโอ คอมมูนิเคชันส์ และหุ้นบริษัทเทลาดอคที่ทำธุรกิจโทรเวชกรรม ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยธนาคารดอยช์ แบงก์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักลงทุนในเดือนมิ.ย.ระบุว่า นักลงทุน 90% คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยก่อนสิ้นปี 2023 โดยพุ่งขึ้นจาก 78% ในผลสำรวจเดือนพ.ค.
นายแจ็ค จานาซีวิคส์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทแนติซิส อินเวสท์เมนท์ แมเนเจอร์ส โซลูชันส์ระบุว่า ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยถือเป็นเหตุผลอันดีสำหรับการปรับเพิ่มสถานะการลงทุนในบริษัทแอลฟาเบท และบริษัทต่าง ๆ ที่เคยมีราคาหุ้นดิ่งลงในช่วงที่ผ่านมาจนส่งผลให้มูลค่าหุ้นมีความน่าดึงดูด โดยขณะนี้ค่าพีอีเรโชล่วงหน้าของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐดิ่งลงสู่ 19.1 เท่าของคาดการณ์ผลกำไร ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2020 ทั้งนี้ นายลินด์เซย์ ฮอทัน ผู้จัดการพอร์ตลงทุนในบริษัทฮาร์เบอร์ แคปิตัลระบุว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจจะผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว และปัจจัยดังกล่าวอาจจะเปิดโอกาสให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยบริษัทของเขาได้ขายหุ้นบางตัวในกลุ่มพลังงานออกมาในช่วงนี้ และโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นกลุ่มนี้อาจจะพุ่งขึ้นอย่างน้อย 20% ต่อปีในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากมูลค่าหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในระดับต่ำมาก และบริษัทในกลุ่มนี้น่าจะครองส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น--จบ--
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)
((jit.phokaew@thomsonreuters.com; โทร 08-7689-6043;
การดิ่งลงอย่างหนักของหุ้นและพันธบัตร, ความผันผวนรุนแรงของตลาด และความตั้งใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 40 ปีเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดสหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และ ณ วันพุธที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 จะปิด 6 เดือนแรกของปีนี้ด้วยการดิ่งลง 20% ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหายไปราว 8.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดิ่งลงมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่ปี 1970
พันธบัตรปรับตัวดีกว่าเล็กน้อย โดยดัชนีพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของ BofA ในตลาด ICE ร่วงเกือบ 10% แล้วในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการร่วงลงมากที่สุดของดัชนีนับตั้งแต่ปี 1997 และในขณะนี้ นักลงทุนแทบไม่เห็นการชะลอความผันผวนที่ทำให้ตลาดดิ่งลงในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาท่ามกลางความวิตกที่ว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟดจะทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงลดลงไปอีก ขณะเดียวกันก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
ในเดือนหน้า จะมีการแถลงผลประกอบการรอบใหม่, การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุด และการประชุมของเฟด ซึ่งทำให้มีโอกาสมากมายที่ตลาดจะต่อยอดการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นที่เพิ่งเริ่มในกลางเดือนมิ.ย. หรือจะมองหาจุดต่ำสุดใหม่
การดิ่งลงของหุ้นยังได้ทดสอบกลยุทธ์ที่เป็นที่นิยมในการซื้อหุ้นในช่วงขาลง ซึ่งทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนในช่วงทศวรษที่ผ่านมา แต่ก็ประสบความยากลำบากในปีนี้ท่ามกลางการดิ่งลงของดัชนี S&P 500 โดยดัชนีดีดตัวขึ้น 6% 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งพลิกกลับมาร่วงต่ำกว่าจุดต่ำสุดครั้งก่อนแล้ว ขณะที่การดีดตัวขึ้นครั้งล่าสุดส่งผลให้ดัชนีพุ่งขึ้นราว 3% จากระดับต่ำสุดในกลางเดือนมิ.ย.
แนวทางยอดนิยมอีกวิธีที่ได้รับผลกระทบในปีนี้ก็คือพอร์ทการลงทุนแบบ 60/40 ซึ่งนักลงทุนจะเข้าซื้อหุ้นและพันธบัตรผสมกันเพื่อปกป้องการดิ่งลงของตลาดหุ้น เนื่องจากหุ้นจะพุ่งขึ้นท่ามกลางความหวังต่อเศรษฐกิจ และพันธบัตรจะพุ่งขึ้นในช่วงที่เกิดความผันผวน แต่กลยุทธ์นี้ใช้ไม่ได้ในปีนี้ เนื่องจากการคาดการณ์การคุมเข้มนโยบายของเฟดถ่วงสินทรัพย์ทั้งสองประเภท โดยกองทุนจัดสรรการลงทุนตามเป้าหมาย 60/40 ของแบล็คร็อคร่วงลง 16% แล้วตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2006
แทบไม่มีนักลงทุนที่เชื่อว่า ความผันผวนรุนแรงของตลาดจะเบาบางลงจนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถชะลอหรือยุติการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ซึ่งในขณะนี้ คำเตือนเกี่ยวกับภาวะถดถอยเริ่มดังขึ้นในตลาดวอลล์สตรีท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจแล้ว--จบ--
Genesys เปิดใช้งานช่องสัญญาณทางตรงและทางอ้อมด้วยโซลูชัน Zoom Phone และ Genesys Cloud CX ร่วมกัน
ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย และซานฟรานซิสโก, June 06, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — Zoom Video Communications, Inc. และ Genesys® ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการประสบการณ์ลูกค้า ได้ขยายความร่วมมือเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์แก่ลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยสร้างขึ้นจากการผสานรวมกันระหว่าง Zoom Phone และ Genesys Cloud CX™ ข้อเสนอที่มีร่วมกันช่วยให้องค์กรมีศูนย์ติดต่อระบบคลาวด์ที่กำหนดค่าได้ง่ายและมีคุณลักษณะมากมาย อีกทั้งยังมีโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจรที่ช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาในด้านความต้องการของลูกค้า
ความร่วมมือที่ขยายออกไปของบริษัทรวมถึงความสัมพันธ์ในการเข้าสู่ตลาด โดยที่ Genesys จะใช้ช่องทางทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อมของตนในการส่งมอบโซลูชัน Zoom Phone ที่ผสานรวมกับ Genesys Cloud CX
InflowCX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการมืออาชีพและผู้ให้บริการคำปรึกษาสำหรับศูนย์ติดต่อ ฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า และโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจร ได้มองเห็นศักยภาพที่เพิ่มขึ้นสำหรับองค์กรในการปรับใช้ Zoom และ Genesys ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง UCaaS และ CCaaSเมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทยังได้ช่วยเหลือองค์กรสองแห่ง ซึ่งได้แก่ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเด็กและบริษัทประกันภัยรถยนต์ ซึ่งก็ได้นำข้อเสนอแบบบูรณาการจาก Zoom และ Genesys มาปรับใช้ด้วย องค์กรทั้งสองแห่งนี้ต่างก็มีเป้าหมายให้พนักงานสามารถส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้ศูนย์ติดต่อ
และส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจได้ง่ายขึ้น เพื่อให้ลูกค้าและผู้ป่วยสามารถรับการบริการได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะติดต่อสื่อสารผ่านการโทร ช่องทางดิจิทัล หรือกำลังเดินเข้าไปในสำนักงานก็ตาม
Mike Dolloff หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ InflowCX กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ธุรกิจไม่ได้ต้องการจัดการกับขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากและน่าอึดอัดใจ เพียงเพื่อแค่เคลื่อนย้ายปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าไปมาระหว่างชุดเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่องค์กรใช้ แต่ด้วยการทำงานร่วมกันนี้ ทาง Zoom และ Genesys กำลังแก้ไขอุปสรรคใหญ่ให้กับลูกค้าของเราหลายราย อีกทั้งยังเชื่อมโยงการสื่อสารทั่วทั้งองค์กร และปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงานและลูกค้าอีกด้วย ในทุกภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือใหญ่ เรามักจะได้ยินจากธุรกิจต่าง ๆ ว่าการมีอยู่และความพร้อมของไดเรกทอรีระหว่าง Zoom Phone และ Genesys Cloud มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมให้พนักงานนำลูกค้าไปยังทรัพยากรที่ถูกต้องในแบบเรียลไทม์”
“การประสานความร่วมมือกับ Genesys ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นนี้ จะช่วยเร่งการเปิดตัวของ Zoom Phone เข้าสู่ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของ Genesys Cloud CX ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจเหล่านั้นมีโซลูชันโทรศัพท์ระบบคลาวด์ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มแบบครบวงจรไร้รอยต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกันของพนักงานและสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่มีความหมายและแข็งแกร่งมากขึ้น” Ryan Azus ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Zoom กล่าว “โซลูชันโทรศัพท์ที่เป็นนวัตกรรมของ Zoom นั้นเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบกับความสามารถในการประสานประสบการณ์ของ Genesys อีกทั้งยังเข้ากันได้กับเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงวิธีที่บริษัทต่าง ๆ เชื่อมต่อกับลูกค้าและพนักงานของบริษัท เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะรวมการบูรณาการที่แข็งแกร่งนี้เข้ากับระบบนิเวศทางธุรกิจของพันธมิตรแบบเปิดของเรา เพื่อให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและมีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์การติดต่อบนคลาวด์และโซลูชันการสื่อสาร”
ML Maco ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Genesys กล่าวว่า “ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันการสื่อสารแบบครบวงจรและศูนย์ติดต่อถือเป็นการยอมรับจากธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งในที่สุดแล้ว พนักงานทุกคนก็จะได้ให้บริการแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้าโดยตรงหรือไม่ก็ตาม” “นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราทำงานร่วมกับ Zoom เพื่อลดอุปสรรคสำหรับธุรกิจต่าง ๆ และระบบนิเวศทางธุรกิจของเราจะช่วยให้ลูกค้าที่เรามีร่วมกันเชื่อมต่อกับองค์กรได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งความร่วมมือนี้ยังทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เหนือความคาดหวังของผู้บริโภคในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป”
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเข้าร่วม Genesys Xperience 2022 ในสัปดาห์นี้ เพื่อฟังคุณ Oded Gal หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Zoom และคุณ Peter Graf เจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Genesys พูดคุยถึงวิธีที่บริษัทต่าง ๆ ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ธุรกิจได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพนักงาน ในเซสชันที่ดูแลโดย CX influencer Blair Pleasant ประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์ของ COMMfusion เซสชันที่ Zoom และ Genesys มีร่วมกันจะจัดขึ้นในวันที่สองของ Xperience ตั้งแต่เวลา 5:30-6:00 น. ET และ 13:30-14:00 น. ET ในวันที่ 9 มิถุนายน และแบบ on-demand หลังจากวันงาน ลงทะเบียนตอนนี้
เกี่ยวกับ Zoom
Zoom เหมาะสำหรับคุณ เราช่วยให้คุณแสดงความคิด เชื่อมต่อกับผู้อื่น และต่อยอดไปสู่อนาคตตามจินตนาการของคุณ แพลตฟอร์มการสื่อสารที่ราบรื่นของเราเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่เริ่มต้นด้วยการใช้วิดีโอเป็นรากฐาน และเราได้กำหนดมาตรฐานให้กับนวัตกรรมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราจึงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่าย ปรับเปลี่ยนได้ และปลอดภัยสำหรับทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็ก และบุคคลทั่วไป Zoom ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 มีการซื้อขายต่อสาธารณะ และมีสำนักงานใหญ่ในซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย เยี่ยมชม zoom.com และติดตาม@zoom.
เกี่ยวกับ Genesys
ในทุก ๆ ปี Genesys ได้จัดเตรียมประสบการณ์ลูกค้าที่โดดเด่นกว่า 7 หมื่นล้านรายการสำหรับองค์กรต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ ด้วยพลังของเทคโนโลยีคลาวด์ ดิจิทัล และ AI ทำให้องค์กรสามารถรับรู้ Experience as a ServiceSM ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของเราสำหรับประสบการณ์ลูกค้าที่เราดูแล ด้วย Genesys องค์กรต่าง ๆ จึงมีพลังในการมอบประสบการณ์เชิงรุก คาดการณ์ล่วงหน้าได้ และมีความเฉพาะตัวสูงเพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงของลูกค้าในทุกด้านการตลาด การขาย และการให้บริการในทุกช่องทาง ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการมีส่วนร่วมของพนักงานให้ดีขึ้นอีกด้วย Genesys ช่วยให้เกิดความใกล้ชิดอย่างแท้จริงในวงกว้างเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้า โดยการเปลี่ยนเทคโนโลยีหลังบ้านให้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ที่ทันสมัยและรวดเร็ว เยี่ยมชม www.genesys.com
© 2021 Genesys สงวนลิขสิทธิ์ Genesys, โลโก้ Genesys, Genesys Cloud CX, Genesys Multicloud CX, Genesys DX และ Experience as a Service เป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ และ/หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Genesys ชื่อและโลโก้บริษัทอื่น ๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
สื่อมวลชนสัมพันธ์ ZoomBridget Moriarty
ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์
press@zoom.us
Genesys
Rachel Faulkner Perez
ผู้อำนวยการอาวุโส, ฝ่ายการสื่อสารภายนอก
Rachel.FaulknerPerez@genesys.com
+1 317.403.1781
ไวท์เลเบล
Data API
ปลั๊กอินเว็บไซต์
เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์
โครงการพันธมิตร
ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ
ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ
หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน
ไม่ได้ล็อกอิน
เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

สมาชิก FastBull
ยังไม่ได้เปิด
สมัคร
เข้าสู่ระบบ
ลงทะเบียน