• การซื้อขาย
  • ตลาด
  • คัดลอก
  • การแข่งขัน
  • ข่าวสาร
  • 24x7
  • ปฏิทิน
  • Q&A
  • แชท
ยอดนิยม
ตัวกรอง
สินทรัพย์
ล่าสุด
ราคาขาย
ราคาซื้อ
สูงสุด
ต่ำสุด
เปลี่ยน
% เปลี่ยน
สเปรด
SPX
S&P 500 Index
6834.37
6834.37
6834.37
6878.28
6827.18
-36.03
-0.52%
--
DJI
Dow Jones Industrial Average
47682.97
47682.97
47682.97
47971.51
47611.93
-272.01
-0.57%
--
IXIC
NASDAQ Composite Index
23492.46
23492.46
23492.46
23698.93
23455.05
-85.66
-0.36%
--
USDX
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ
99.020
99.100
99.020
99.160
98.730
+0.070
+ 0.07%
--
EURUSD
ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ
1.16394
1.16401
1.16394
1.16717
1.16162
-0.00032
-0.03%
--
GBPUSD
ปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์สหรัฐ
1.33265
1.33272
1.33265
1.33462
1.33053
-0.00047
-0.04%
--
XAUUSD
Gold / US Dollar
4192.31
4192.75
4192.31
4218.85
4175.92
-5.60
-0.13%
--
WTI
Light Sweet Crude Oil
58.628
58.658
58.628
60.084
58.495
-1.181
-1.97%
--

บัญชีชุมชน

บัญชีสัญญาณ (อัน)
--
บัญชีกำไร (อัน)
--
บัญชีขาดทุน (อัน)
--
ดูเพิ่มเติม

มาเป็นผู้ให้สัญญาณ

ขายสัญญาณและรับรายได้

ดูเพิ่มเติม

คู่มือการคัดลอกการซื้อขาย

เริ่มต้นง่ายๆ

ดูเพิ่มเติม

สัญญาณ VIP

ทั้งหมด

ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
  • กำไร/ขาดทุนที่ดีที่สุด
  • MDD ที่ดีที่สุด
1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • 1 เดือนที่ผ่านมา
  • 1 ปีที่ผ่านมา

ทั้งหมด

  • ทั้งหมด
  • อัปเดตทรัมป์
  • แนะนำ
  • หุ้น
  • สกุลเงินดิจิทัล
  • ธนาคารกลาง
  • ข่าวเด่น
ดูข่าวเด่นเท่านั้น
แชร์

เบสเซนต์: เรายังคงทำงานเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าอินเดีย

แชร์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดที่ 62.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.98 เปอร์เซ็นต์

แชร์

ทรัมป์: อุปกรณ์การเกษตรมีราคาแพงเกินไป

แชร์

ทรัมป์: เราจะยกเลิกกฎสิ่งแวดล้อมจำนวนมากที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทรถแทรกเตอร์

แชร์

เครมลินกล่าวว่ายังไม่มีคำพูดใดๆ เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-ยูเครนในฟลอริดา

แชร์

ทรัมป์: สหรัฐฯ จะแบ่งรายได้จากภาษีศุลกากรบางส่วนไปให้กับเกษตรกร

แชร์

ทรัมป์: ดำเนินการเพื่อปกป้องเกษตรกร

แชร์

ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าของ Nymex เดือนมกราคมปิดที่ 1.7981 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และราคาน้ำมันเตาล่วงหน้าของ Nymex เดือนมกราคมปิดที่ 2.2982 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

แชร์

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปิดที่ 58.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.00 เปอร์เซ็นต์

แชร์

ซีอีโอร่วมของ Netflix พูดถึงข้อตกลงกับ Warner Bros: เรามั่นใจมากว่าหน่วยงานกำกับดูแลควรและจะอนุมัติข้อตกลงนี้

แชร์

อลีนา ฮับบา อัยการรัฐบาลกลางรักษาการประจำรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้ลาออกแล้ว สืบเนื่องจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ว่าการเสนอชื่อเธอโดยประธานาธิบดีทรัมป์นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แชร์

ซีอีโอร่วมของ Netflix เผยว่า Paramount Skydance เสนอซื้อ Warner Bros. จริงตามที่คาดการณ์ไว้ - UBS Conf

แชร์

วาร์เรน สมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ และนักเคลื่อนไหวต่อต้านการผูกขาด กล่าวว่าข้อเสนอซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตรของ Paramount Skydance กระตุ้นให้เกิด "การแจ้งเตือนการต่อต้านการผูกขาดระดับ 5"

แชร์

รัฐบาลเบนิน: ผู้วางแผนก่อรัฐประหารลักพาตัวเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง 2 นาย ซึ่งต่อมาได้รับการปล่อยตัว

แชร์

แคนาดา: รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 หารือเรื่องการควบคุมการส่งออกและแร่ธาตุสำคัญ

แชร์

รัฐบาลเบนิน: ไนจีเรียโจมตีทางอากาศเพื่อช่วยขัดขวางความพยายามก่อรัฐประหาร

แชร์

ฟิทช์: คาดการณ์ว่าการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลาง (GG) จะลดลงเล็กน้อยในแคนาดา แต่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสหรัฐฯ ในปี 2569

แชร์

ประเด็นสำคัญที่ต้องมีความเห็นพ้องกันคือความกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายที่ไม่ใช่ตลาด รวมถึงการควบคุมการส่งออก ในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ

แชร์

Fitch: แม้ภาษีศุลกากรจะมีผลกระทบต่อทั้งปี แต่เราคาดว่าการขาดดุลการคลังของสหรัฐฯ จะขยายตัวในปี 2569 เนื่องจากการลดภาษีเพิ่มเติมภายใต้พระราชบัญญัติ One Big Beautiful Bill Act

แชร์

บริษัท Private Equity Cinven ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 190 ล้านปอนด์เพื่อซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทที่ปรึกษา Flint Global ของอังกฤษ

เวลา
ค่าจริง
คาดการณ์
ครั้งก่อน
ฝรั่งเศส ดุลการค้า (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --
ยูโรโซน การจ้างงาน YoY (SA) (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --
แคนาดา การจ้างงานนอกเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงานเต็มเวลา (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา อัตราการมีส่วนร่วมในการจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา การจ้างงาน (SA) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายได้ส่วนบุคคล MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักMoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคา PCE YoY (SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาPCEหลักYoY (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา รายจ่ายส่วนบุคคล MoM(SA) (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --
สหรัฐอเมริกา การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5-10 ปี (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลที่จริง MoM (ก.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --
สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะทั้งหมดรายสัปดาห์

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ปริมาณเครื่องเจาะน้ำมันทั้งหมดรายสัปดาห์

ค:--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สินเชื่ออุปโภคบริโภค (SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --
จีนแผ่นดินใหญ่ เงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรอง (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดุลการค้า (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น GDP Nominal แก้ไขQoQ (ไตรมาส 3)

ค:--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า YoY (USD) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การส่งออก (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้า (CNH) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ดุลการค้า (CNH) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ ปริมาณการส่งออก YoY (USD) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ การนำเข้าYoY (USD) (พ.ย.)

ค:--

ค: --

ค: --

เยอรมนี การผลิตภาคอุตสาหกรรม MoM(SA) (ต.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --
ยูโรโซน ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน Sentix (ธ.ค.)

ค:--

ค: --

ค: --

แคนาดา ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจแห่งชาติ

ค:--

ค: --

ค: --

สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีก Like-For-Like BRC YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหราชอาณาจักร ดัชนียอดค้าปลีกรวม BRC YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ออสเตรเลีย อัตราหลัก(ดอกเบี้ยเงินกู้)O/N

--

ค: --

ค: --

คำแถลงอัตราของธนาคารกลางออสเตรเลีย
ประธานธนาคารกลางออสเตรเลีย Bullock จัดงานแถลงข่าวนโยบายการเงิน
เยอรมนี อัตราการส่งออก MoM (SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก NFIB (SA) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก อัตราเงินเฟ้อ 12-เดือน (CPI) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก CPI หลัก YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

เม็กซิโก PPI YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา Redbook ประจำปีการขายปลีกเชิงพาณิชย์รายสัปดาห์

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา ตำแหน่งงานว่างJOLTS (SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ Money Supply ปริมาณเงิน M1 YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ Money Supply ปริมาณเงิน M0 YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ Money Supply ปริมาณเงิน M2 YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การพยากรณ์การผลิตระยะสั้นประจำปีน้ำมัน EIA (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การพยากรณ์การผลิตในปีหน้าก๊าซธรรมชาติ EIA (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา การพยากรณ์การผลิตระยะสั้นในปีหน้าน้ำมัน EIA (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

แนวโน้มพลังงานระยะสั้นรายเดือน EIA
สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ API

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่งรายสัปดาห์ API

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ API

--

ค: --

ค: --

สหรัฐอเมริกา สต็อกน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ API

--

ค: --

ค: --

เกาหลีใต้ อัตราการว่างงาน (SA) (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดัชนีนอกภาคการผลิต Reuters Tankan (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดัชนีภาคการผลิต Reuters Tankan (ธ.ค.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดัชนีราคาสินค้าของวิสาหกิจในประเทศ MoM (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

ญี่ปุ่น ดัชนีราคาสินค้าของวิสาหกิจในประเทศ YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ PPI YoY (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

จีนแผ่นดินใหญ่ CPI MoM (พ.ย.)

--

ค: --

ค: --

อิตาลี ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม YoY(SA) (ต.ค.)

--

ค: --

ค: --

Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
    • ทั้งหมด
    • ห้องสนทนา
    • กลุ่ม
    • เพื่อน
    กำลังเชื่อมต่อกับห้องสนทนา
    .
    .
    .
    พิมพ์ที่นี่...
    เพิ่มชื่อสินทรัพย์หรือรหัส

      ไม่มีข้อมูลที่ตรงกัน

      ทั้งหมด
      อัปเดตทรัมป์
      แนะนำ
      หุ้น
      สกุลเงินดิจิทัล
      ธนาคารกลาง
      ข่าวเด่น
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      • ทั้งหมด
      • สงครามรัสเซีย–ยูเครน
      • โฟกัสตะวันออกกลาง
      ค้นหา
      ผลิตภัณฑ์

      กราฟ ฟรีตลอดไป

      แชท Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
      ตัวกรอง ปฏิทินเศรษฐกิจ ข้อมูล เครื่องมือ
      สมาชิก ฟีเจอร์
      ศูนย์ข้อมูล แนวโน้มของตลาด ข้อมูลสถาบัน อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง เศรษฐกิจมหภาค

      แนวโน้มของตลาด

      ความเชื่อมั่น รายการคำสั่งซื้อขาย ความสัมพันธ์ในตลาดฟอเร็กซ์

      ตัวชี้วัดยอดนิยม

      กราฟ ฟรีตลอดไป
      ตลาด

      ข่าวสาร

      ข่าวสาร การวิเคราะห์ 24x7 คอลัมน์ แหล่งเรียนรู้
      ทัศนคติสถาบัน ทัศนคตินักวิเคราะห์
      หัวข้อคอลัมน์ คอลัมนิสต์

      ทัศนคติล่าสุด

      ทัศนคติล่าสุด

      หัวข้อยอดนิยม

      คอลัมนิสต์ยอดนิยม

      อัปเดตล่าสุด

      สัญญาณ

      คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
      การแข่งขัน
      Brokers

      ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
      รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
      Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
      เพิ่มเติม

      สำหรับธุรกิจ
      กิจกรรม
      รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

      ไวท์เลเบล

      Data API

      ปลั๊กอินเว็บไซต์

      โครงการพันธมิตร

      รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
      เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
      Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
      การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView
      การค้นหาเมื่อเร็วๆนี้
        คำศัพท์ที่ยอดนิยม
          ตลาด
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          ผู้ใช้
          24x7
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          แหล่งเรียนรู้
          ข้อมูล
          • ชื่อ
          • ค่าล่าสุด
          • ครั้งก่อน

          ดูผลการค้นหาทั้งหมด

          ไม่มีข้อมูล

          สแกน ดาวน์โหลด

          Faster Charts, Chat Faster!

          ดาวน์โหลดแอป
          • English
          • Español
          • العربية
          • Bahasa Indonesia
          • Bahasa Melayu
          • Tiếng Việt
          • ภาษาไทย
          • Français
          • Italiano
          • Türkçe
          • Русский язык
          • 简中
          • 繁中
          เปิดบัญชี
          ค้นหา
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ ฟรีตลอดไป
          ตลาด
          ข่าวสาร
          สัญญาณ

          คัดลอก อันดับ สัญญาณล่าสุด มาเป็นผู้ให้สัญญาณ การจัดอันดับ AI
          การแข่งขัน
          Brokers

          ภาพรวม โบรกเกอร์ เรตติ้ง อันดับ หน่วยงานควบคุม ข่าวสาร การเรียกร้อง
          รายชื่อโบรกเกอร์ การเปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ การเปรียบเทียบสเปรดสด โบรกเกอร์โกง
          Q&A ร้องเรียน วิดีโอแจ้งเตือนการหลอกลวง เคล็ดลับการตรวจจับการหลอกลวง
          เพิ่มเติม

          สำหรับธุรกิจ
          กิจกรรม
          รับสมัครงาน เกี่ยวกับเรา การลงโฆษณา ศูนย์ช่วยเหลือ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          โครงการพันธมิตร

          รางวัล การประเมินสถาบัน IB Seminar กิจกรรม Salon นิทรรศการ
          เวียดนาม ประเทศไทย สิงคโปร์ ดูไบ
          Fans Party เซสชั่นการแบ่งปันการลงทุน
          การประชุมสุดยอด FastBull นิทรรศการ BrokersView

          กนง.มีมติ ‘คงดอกเบี้ย’ ต่อ ที่ระดับ 2.50%

          Buntita

          คำแถลงของข้าราชการ

          ธนาคารกลาง

          สรุป:

          กนง. มีมติ ‘คงดอกเบี้ย’ ที่ระดับ 2.50% ต่อ โดยเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ 29พ.ย. 2566

          ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยต่อที่ระดับ 2.50% โดยเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยต่อเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ 29 พ.ย. 2566
          นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง.ในวันที่ 10 เมษายน 2567
          คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี
          เศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นจากปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนต่อเนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว
          รวมทั้งมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ภาคการส่งออกยังมีแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทานและมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ โดยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567
          กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงเห็นว่านโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
          จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ แต่ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนของปัจจัยที่จะเข้ามากระทบเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง
          เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ขยายตัวชะลอลงจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่ล่าช้า การใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงมาก และแรงกดดันจากสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงกว่าปกติ
          สำหรับปี 2567 ปัจจัยลบดังกล่าวจะทยอยลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น อยู่ที่ร้อยละ 2.6 และ 3.0 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้นทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อคน การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่องแม้จะชะลอลงจากปีก่อนที่ขยายตัวสูง และการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี
          ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่โน้มต่ำลงหลังวิกฤตโควิด สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่กดดันศักยภาพเศรษฐกิจ
          โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการผลิตที่เผชิญความท้าทายจากความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลงและภาวะสินค้าล้นตลาด ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจำกัด
          อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ 1.3 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มอยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ตามการปรับลดลงของราคาอาหารสดบางกลุ่มเนื่องจากปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
          อีกทั้งจากราคากลุ่มพลังงานที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ซึ่งหากหักผลของมาตรการดังกล่าว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปตลอดช่วงที่ผ่านมายังคงเป็นบวก ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นกลับเข้ากรอบเป้าหมายได้ภายในปลายปีนี้ โดยต้องติดตามปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการภาครัฐที่ส่งผลต่อราคาพลังงาน
          ภาวะการเงินโดยรวมทรงตัว ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ใกล้เคียงเดิม สินเชื่อภาคธุรกิจและครัวเรือนขยายตัวชะลอลงจากการชำระคืนหนี้ ขณะที่ปริมาณสินเชื่อปล่อยใหม่ในภาพรวมยังขยายตัว อย่างไรก็ดี ธุรกิจขนาดเล็กบางกลุ่มและครัวเรือนรายได้น้อยเผชิญภาวะการเงินที่ตึงตัว เนื่องจากมีปัญหาเชิงโครงสร้างในการเข้าถึงสินเชื่อมาต่อเนื่อง
          ประกอบกับความสามารถในการชำระหนี้ปรับลดลงจากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งสอดคล้องกับยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพที่คาดว่าจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นแต่ไม่เร่งตัวแบบก้าวกระโดด
          นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีความกังวลเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเห็นความสำคัญของกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (debt deleveraging) ที่ควรมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดความเปราะบางของเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงพิจารณาว่านโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ จึงสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ในการดำเนินมาตรการเฉพาะจุดผ่านสถาบันการเงิน โดยเฉพาะมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending)
          ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. เคลื่อนไหวผันผวน โดยอ่อนค่านำสกุลเงินภูมิภาค ตามการคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจการเงินในประเทศในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด
          ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน กรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว
          อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนโดยเฉพาะการฟื้นตัวของภาคการส่งออก รวมทั้งผลของการเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการดังกล่าวและพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า

          ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          อัตราแลกเปลี่ยนปอนด์เป็นยูโร: ราคาถูก

          Thomas

          ฟอเร็กซ์

          เศรษฐกิจ

          นักวิจัยจากธนาคารแห่งการลงทุนแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสกล่าวว่า 'มูลค่ายุติธรรม' สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนปอนด์ต่อยูโรนั้นอยู่เหนือ 1.17 เล็กน้อย ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่อาจมีอคติตรงข้าม
          "EUR เริ่มดูมีมูลค่าสูงเกินไปทั่วทั้งกระดาน นี่เป็นผลมาจากการที่มูลค่ายุติธรรมระยะสั้นของสกุลเงินลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเป็นผลจากการที่อัตราดอกเบี้ยของ EUR ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งกระดาน รวมถึงการขยายส่วนต่างอัตราผลตอบแทนต่อพ่วงให้กว้างขึ้น Bund" Valentin Marinov หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ G10 FX ที่ Crédit Agricole กล่าว
          จากข้อมูลของ Marinov “EUR/GBP และ EUR/NOK ดูมีราคาแพงเมื่อเทียบกับมูลค่ายุติธรรมที่ 0.8535 และ 11.414 ตามลำดับ”
          การประเมินมูลค่ายุติธรรมของ EUR/GBP ที่ 0.8535 ทำให้มูลค่ายุติธรรมของเงินปอนด์ต่อยูโรอยู่ที่ 1.1715
          เรารายงานเมื่อวานนี้ว่านักวิเคราะห์ของ ING Bank กล่าวว่าเงินยูโรดูเหมือนมีมูลค่าสูงเกินไปเมื่อเทียบกับส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างยูโรโซนและที่อื่นๆ
          "ในระดับนี้ EUR/USD ดูมีราคาแพง" Francesco Pesole นักยุทธศาสตร์ด้าน FX ของ ING กล่าว "ประสิทธิภาพที่ดีของหุ้นมักถูกตำหนิเป็นส่วนใหญ่"
          ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างยูโรโซน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยทั่วไปแล้วจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของยูโร-ดอลลาร์และยูโร-ปอนด์ ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในอนาคตที่ธนาคารกลางที่เกี่ยวข้อง
          อัตราแลกเปลี่ยนปอนด์เป็นยูโร: ราคาถูก_1
          อัตราปอนด์-ยูโรกลับมาที่ 1.1670 อีกครั้ง ย้อนกลับไปในช่วงกลางของช่วงการซื้อขายเดือนมกราคม-เมษายน ดังที่เราคาดการณ์ไว้ในการคาดการณ์ Week Ahead ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์
          จะสามารถขยายเป็น 1.17 และสูงกว่านั้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจนโยบายของ ECB ในวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่เปลี่ยนแปลง ผู้เข้าร่วมตลาดจะกระตือรือร้นที่จะได้ยินคำแนะนำของธนาคารกลางเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนที่คาดหวัง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี 2024 อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่
          “ความเสี่ยงขาลงของสกุลเงินยูโรอาจรุนแรงขึ้นก่อนการประชุมนโยบายของ ECB ในเดือนเมษายนในวันพฤหัสบดี ซึ่งประธานาธิบดีคริสติน ลาการ์ด อาจประกาศเริ่มวงจรการผ่อนคลายของ ECB ในเดือนมิถุนายน และอาจนำหน้าเฟดและธนาคารกลางอื่นๆ ด้วย” Marinov กล่าว
          ลาการ์ดประธาน ECB มีแนวโน้มที่จะตรวจสอบความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ในขณะที่เตือนว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้นขึ้นอยู่กับข้อมูลทั้งหมด
          สิ่งนี้น่าจะทำให้เกิดข้อสงสัยมากพอที่จะทำให้ผู้ขายเงินยูโรอยู่ในภาวะตกต่ำและอาจผลักดันให้เงินปอนด์-ยูโรต่ำลง
          แต่หากเธอสนับสนุนให้ตลาด 'กำหนดราคา' การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมด้วยความมั่นใจมากขึ้น ค่าเงินยูโรอาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในวันนั้น
          อัตราแลกเปลี่ยนปอนด์เป็นยูโร: ราคาถูก_2

          ด้านบน: อัตราดอกเบี้ยของ ECB อยู่ในระดับที่เข้มงวดที่สุดในรอบหลายปี โดยนักเศรษฐศาสตร์บางคนกล่าวว่าควรลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

          ความเสี่ยงต่อเงินยูโร ได้แก่ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์วาณิชธนกิจบางคนกล่าวว่ามีความจำเป็นในตอนนี้
          “มีเหตุผลที่น่าเชื่อน้อยมากว่าทำไมธนาคารกลางยุโรปจึงไม่สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ทันที เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงยังคงผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสูงขึ้น” David Kohl นักวิเคราะห์จาก Julius Baer กล่าว
          Julius Baer กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางที่ทรงตัวหมายความว่าอัตราที่แท้จริงในยูโรโซนได้เพิ่มขึ้นจาก 0% ในเดือนกันยายน 2023 (เมื่อมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด) เป็น 1.6% ในเดือนมีนาคม
          “เราเห็นโอกาสที่ดีที่ ECB จะสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้” โคห์ลกล่าว สำหรับเงินยูโร การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน่าประหลาดใจในสัปดาห์นี้อาจกระตุ้นให้เกิดความอ่อนตัวอย่างมีนัยสำคัญ
          นักเศรษฐศาสตร์ที่ ABN AMRO กล่าวว่า ECB จะลดลงในเดือนมิถุนายน และคำถามที่แท้จริงสำหรับตลาดคือจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
          "ความสนใจจำนวนมากตอนนี้จริงๆ แล้วเกี่ยวกับเส้นทางที่เกินกว่าเดือนมิถุนายน โดยพื้นฐานแล้วนักลงทุนอยู่ที่ 50-50 ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนจะตามมาด้วยการเคลื่อนไหวในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ และราคาตลาดแนะนำว่า ECB จะหยุดการประชุมอย่างน้อยหนึ่งครั้งหลังจากรอบนี้ เริ่มเลย” นิค คูนิส นักเศรษฐศาสตร์จาก ABN AMRO กล่าว
          “กรณีพื้นฐานของเราคือ ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมแต่ละครั้งตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป” เขากล่าวเสริม
          นี่หมายความว่าตลาดจะต้องลดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเราคาดว่าจะมีน้ำหนักต่ออัตราแลกเปลี่ยนยูโร อย่างอื่นก็เท่าเทียมกัน

          ที่มา: ปอนด์สเตอร์ลิง

          หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดของวันนี้ โปรดไปที่ ปฏิทินเศรษฐกิจ
          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          หุ้นยุโรปฟื้นตัวก่อนข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ

          Alex

          เศรษฐกิจ

          ตลาดหุ้น

          หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากข่าวเชิงบวกในภาคเทคโนโลยีและราคาทรัพยากรที่สูงขึ้น ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
          ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ดีดตัวขึ้นจากการขาดทุนเมื่อวันอังคาร เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามรายงานของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. เนื่องจากการพัฒนา AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็วทำให้หุ้นเทคโนโลยีของยุโรปเพิ่มขึ้น คนงานเหมืองก้าวหน้าไปหลังจากได้รับทองแดง แร่เหล็ก และทองคำ ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
          ในเอเชีย ดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามและพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดกระทิงทางเทคนิค หลังจากขยับขึ้นมากกว่า 20% จากระดับต่ำสุดในเดือนมกราคม
          ความสนใจของนักลงทุนมุ่งเน้นไปที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะถึงกำหนดชำระในภายหลัง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมีนาคมเป็นรายเดือน ทั้งโดยรวมและไม่รวมต้นทุนอาหารและพลังงาน ตลาดสว็อปมีการกำหนดราคาอยู่ที่ประมาณ 65 จุดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าที่ธนาคารกลางคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว
          Hebe Chen นักวิเคราะห์ตลาดของ IG Market Ltd. กล่าวว่า “เทรดเดอร์ต่างตกตะลึงกับ CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม” “จะนำหลักฐานชิ้นสำคัญมายืนยันหรือไม่อนุมัติมุมมองของเฟดที่ว่าร้อนกว่า -การอ่านที่คาดการณ์ไว้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเป็นเพียงการเพิ่มขึ้นเท่านั้น” European Stocks Stage Rebound Before US CPI Data_1
          ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังดิ้นรนเพื่อสร้างผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากนักลงทุนไม่อยากให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัว โดยเจ้าหน้าที่ไม่เห็นด้วยกับความจำเป็นในการผ่อนคลาย
          คลังทรงตัวหลังจากก้าวหน้าในวันอังคาร อัตราผลตอบแทนสิบปีลดลงจากระดับสูงสุดในปีนี้ เนื่องมาจากสัญญาณของการเปิดรับความเสี่ยงระยะสั้นคลี่คลายลงก่อนที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะอ่านค่าได้ในวันพุธ มาตรวัดความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยหลักไว้ที่ 5.5% และกล่าวว่ามาตรการเชิงนโยบายที่เข้มงวดยังคงเป็นสิ่งจำเป็น
          ในด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ทองแดงขยับขึ้นสู่ระดับ 9,500 ดอลลาร์ต่อตัน ท่ามกลางความเสี่ยงด้านอุปทานและแนวโน้มอุปสงค์ที่สดใสขึ้น ราคาได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ใน London Metal Exchange ในปีนี้ ทำให้ทองแดงเป็นหนึ่งในโลหะอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
          สินแร่เหล็กอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์หลังจากการเพิ่มขึ้น 10% โดยได้รับแรงหนุนจากการเดิมพันว่าการตกต่ำเมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดขึ้นมากเกินไปเนื่องจากมีแนวโน้มความต้องการในจีน ทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และผลกระทบต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันทรงตัวหลังจากการขาดทุนติดต่อกันหลังจากรายงานอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ แม้ว่าความตึงเครียดที่คุกรุ่นในตะวันออกกลางคาดว่าจะช่วยลดการขาดทุนก็ตาม
          รายได้รายไตรมาสของ TSMC เติบโตในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี สอดคล้องกับความคาดหวังที่ว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่เติบโตทั่วโลกกำลังกระตุ้นให้เกิดความต้องการชิปและเซิร์ฟเวอร์ระดับไฮเอนด์ ผู้ผลิตชิปหลักของ Nvidia Corp. และ Apple Inc. รายงานว่ายอดขายในไตรมาสเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 16% ดีกว่าที่คาด เป็นประมาณ 592.6 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (18.5 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับการคาดการณ์เฉลี่ย 579.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน

          ที่มา:บลูมเบิร์ก

          หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดของวันนี้ โปรดไปที่ ปฏิทินเศรษฐกิจ
          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          บีโอไอเปิดส่งเสริมบ้านผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ช่วยประชาชนมีบ้านเป็นของตนเอง

          Buntita

          เศรษฐกิจ

          บีโอไอออกมาตรการพิเศษ เปิดส่งเสริม ‘กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย’ ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ขานรับนโยบายรัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทำงานที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว และกลุ่มผู้สูงอายุ ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ตามโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ของ ธอส.
          นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้เปิดให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ ส.1/2567 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2567 ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สานต่อโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ ‘บ้านล้านหลัง’ ระยะที่ 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน
          บีโอไอได้กำหนดเงื่อนไขว่า ต้องจำหน่ายให้แก่บุคคลธรรมดาในราคาหน่วยละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เป็นเกณฑ์เดียวกันทุกพื้นที่ ทั้งประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ (บ้านแถวหรือบ้านเดี่ยว) หรือแนวสูง (อาคารชุด-คอนโดมิเนียม) โดยบ้านแถวหรือบ้านเดี่ยวต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร และกรณีก่อสร้างอาคารชุดต้องมีพื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร
          นอกจากนี้จะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน เช่น กล้องวงจรปิดทั้งโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง หรือพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ธอส. ก่อนยื่นคำขอรับการส่งเสริม
          โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี โดยวงเงินที่นำมายกเว้นภาษีเงินได้ฯ จะไม่เกินกว่าเงินลงทุนส่วนค่าก่อสร้างถนน สาธารณูปโภค หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ใช้เป็นส่วนกลางสำหรับสาธารณประโยชน์ของโครงการเท่านั้น โดยผู้ที่ประสงค์จะขอรับการส่งเสริมตามมาตรการนี้ต้องยื่นคำขอภายในปี 2568
          ทั้งนี้ บีโอไอเคยให้การส่งเสริมกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในช่วงปี 2536-2557 และกลับมาให้การส่งเสริมอีกครั้งในปี 2563 ตามข้อเสนอของ ธอส. ภายใต้โครงการบ้านล้านหลัง โดยมีโครงการที่ยื่นขอเมื่อปี 2563 ได้รับอนุมัติและออกบัตรส่งเสริมแล้วจำนวน 44 โครงการ จาก 11 บริษัท ซึ่งอยู่ในรูปแบบคอนโดมิเนียมทั้งสิ้น รวมจำนวน 34,900 ห้อง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, สมุทรปราการ, ปทุมธานี, นครปฐม และชลบุรี
          “ที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีพของประชาชนและถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดส่วนหนึ่งของครอบครัว บีโอไอจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทำงานที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัว และกลุ่มผู้สูงอายุ สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ โดยช่วยเพิ่มทางเลือกที่อยู่อาศัยในทำเลที่ตั้งที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี และเป็นที่พักที่มีมาตรฐานในระดับราคาที่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ได้รับประโยชน์อีกเป็นจำนวนมาก” นฤตม์กล่าว

          ที่มา: The Standard Wealth

          หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดของวันนี้ โปรดไปที่ ปฏิทินเศรษฐกิจ
          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          ‘รัฐบาล’ ไม่กู้ทำ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต‘ ใช้งบฯ67-68 บวกยืม 'ธกส.' ดันจีดีพี 1.8%

          Buntita

          เศรษฐกิจ

          ‘รัฐบาล’ ไม่กู้ทำ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต‘ ใช้งบฯ67-68 บวกยืม 'ธกส.' ดันจีดีพี 1.8% : รัฐบาลแถลงดิจิทัลวอลเล็ตสรุปแหล่งเงินไม่ใช้เงินกู้ 5 แสนล้าน แต่ใช้วิธีดึงงบ 67 – 68 บวกยืมเงิน ธกส.ก่อน ดูแลเกษตรกร 17 ล้านคน และตั้งงบประมาณชดเชยให้ ธกส. ดัน จีดีพีได้ 1.2 – 1.8% ประชาชนใช้เงินในร้านค้าขนาดเล็กใน 6 เดือน รายย่อยเบิกเงินได้เมื่อใช้จ่ายในรอบที่ 2 เป็นต้นไป
          นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (คณะกรรมการฯ) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเป็นประธานเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ว่าได้เห็นชอบกรอบหลักการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (โครงการฯ)
          โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น กลุ่มเปราะบาง เกษตรกร เป็นต้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้
          รวมทั้งสร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม
          โดยแหล่งเงิน จะใช้เงินจากงบประมาณจาก 3 แหล่ง ได้แก่ เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท และการบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับกฎหมายต่าง ๆ เช่น มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 (พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ) ซึ่งกำหนดว่ารัฐต้องดำเนินนโยบายการคลังตามหลักการรักษาเสถียรภาพและการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และหลักความเป็นธรรมในสังคม และต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ ซึ่งกำหนดว่าการดำเนินการใด ๆ ของรัฐที่มีผลผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ ต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐด้วย

          สำหรับแนวทางการดำเนินโครงการฯ คณะกรรมการฯ ได้กำหนด ดังนี้

          1. กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนจำนวนประมาณ 50 ล้านคน โดยจะมีเกณฑ์ ได้แก่ อายุเกิน 16 ปี ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษีและมีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
          เปิดเงื่อนไขได้เงิน 10,000 บาท
          2. เงื่อนไขการใช้จ่าย ได้แก่
          2.1 ระหว่างประชาชนกับร้านค้า ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยกำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กที่ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น
          2.2 ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้าในระดับอำเภอและขนาดของร้านค้า การใช้จ่ายเงินสามารถใช้จ่ายได้หลายรอบ โดยรอบที่ 1 จะเป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กเท่านั้น (ตามกระทรวงพาณิชย์กำหนด) ตั้งแต่รอบที่ 2 ขึ้นไป จะเป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้าโดยไม่จำกัดขนาดร้านค้า
          3. ประเภทสินค้า สินค้าทุกประเภทสามารถใช้จ่ายผ่านโครงการฯ ได้ ยกเว้น สินค้าอบายมุข น้ำมัน บริการ และออนไลน์ เป็นต้น และสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเพิ่มเติม
          4. คุณสมบัติร้านค้าที่สามารถถอนเงินสดจากโครงการฯ ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ดังนี้ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT) หรือ (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมิน
          ตามมาตรา 40 ( แห่งประมวลรัษฎากร หรือ (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax: CIT) ทั้งนี้ ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป
          5. การจัดทำระบบ จะเป็นการพัฒนาต่อยอดของรัฐบาลดิจิทัลโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายให้เป็น Super App ของรัฐบาล โดยการใช้งานจะพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ในลักษณะ open loop ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดทำของภาครัฐ รัฐบาล
          จะดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตามกฎหมาย
          6. ช่วงเวลาการดำเนินโครงการ ประชาชนและร้านค้าจะสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และจะมีการเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567
          สำหรับความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการฯ การให้สิทธิแก่ประชาชน จำนวน 50 ล้านคน คิดเป็นจำนวนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาท และกำหนดให้ใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนดซึ่งจะเป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก โดยจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจประมาณร้อยละ 1.2 - 1.8 จากกรณีฐาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดเงื่อนไขของโครงการฯ ในวันนี้คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ นำมติที่ได้รับความเห็นชอบเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปภายในเดือนเมษายน 2567

          สำหรับเหตุผลทางเศรษฐกิจและความจำเป็นในการดำเนินโครงการ ดังนี้

          เนื่องจากในปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 2.7 ต่อปี (ข้อมูลสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)) ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่หลายหน่วยงานเคยประมาณไว้ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าศักยภาพและมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเทียบ GDP ในไตรมาสที่ 4 กับ GDP ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ที่ขจัดผลของฤดูกาลแล้ว (Seasonally Adjusted) พบว่า GDP ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 หดตัวร้อยละ 0.6
          ในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความท้าท้ายทั้งในและนอกประเทศ เช่น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การฟื้นตัวของรายได้ของประชาชนที่ไม่เท่ากันตั้งแต่หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
          หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและบั่นทอนกำลังซื้อของประชาชนและภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า โตต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าและบริการอยู่ที่ร้อยละ 69
          รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการฯ เพื่อเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้กระจายตัวไปสู่ท้องถิ่นและชุมชน โดยการดำเนินโครงการฯ ที่มีขอบเขตและเงื่อนไขที่เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจ ในปัจจุบันย่อมส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมและช่วยดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ยังต้องมีความระมัดระวังและป้องกันความเสี่ยงทางด้านการคลังรวมถึงมีแนวทางในการช่วยลดผลกระทบดังกล่าว เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนโดยรวม ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด
          การป้องกันการทุจริตของโครงการฯ เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต คณะกรรมการฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ โดยมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน และผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นอนุกรรมการและเลขานุการร่วม ซึ่งจะมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบ วินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ รวมถึงการกระทำที่อาจฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

          ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

          หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดของวันนี้ โปรดไปที่ ปฏิทินเศรษฐกิจ
          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          การคาดการณ์ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน: การแก้ไขน้ำมัน; ตอนนี้เป็นเวลาที่จะซื้อหรือไม่?

          Kevin Du

          เศรษฐกิจ

          โภคภัณฑ์

          ภาพรวมตลาด
          ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในวันพุธ โดยสร้างสมดุลระหว่างผลกระทบของความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในฉนวนกาซา เทียบกับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา คุกคามเสถียรภาพของอุปทานน้ำมัน และมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของตลาดน้ำมันทั่วโลก
          แม้จะมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่การเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐก็ช่วยบรรเทาการฟื้นตัวของตลาดได้บ้าง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในฉนวนกาซาเสี่ยงต่อการมีส่วนร่วมในระดับภูมิภาคในวงกว้าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและราคาน้ำมัน

          พยากรณ์ราคาก๊าซธรรมชาติ

          Natural Gas and Oil Forecast: Oil Corrects; Is Now the Time to Buy?_1
          ก๊าซธรรมชาติ (NG) ซื้อขายที่ 2 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.20% จุดกลับตัวอยู่ที่ 1.97 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการเคลื่อนไหวขาขึ้น โดยมีแนวต้านทันทีที่ 2.01 ดอลลาร์ 2.05 ดอลลาร์ และ 2.10 ดอลลาร์
          หาก NG เกินกว่านี้ ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ระดับแนวรับระบุไว้ที่ $1.94, $1.90 และ $1.85 ซึ่งราคาอาจมีเสถียรภาพหรือการกลับตัว EMA 50 วันและ 200 วัน ที่ $1.90 และ $1.89 ตามลำดับ เน้นย้ำช่วงการซื้อขายที่แคบ ซึ่งบ่งบอกถึงขั้นตอนการรวมบัญชี
          แนวโน้มตลาดสำหรับ NG มีแนวโน้มดีขึ้นเหนือระดับ $1.97; อย่างไรก็ตาม การลดลงต่ำกว่าจุดนี้อาจทำให้เกิดแนวโน้มการขายออกที่สำคัญ

          พยากรณ์ราคาน้ำมัน WTI

          Natural Gas and Oil Forecast: Oil Corrects; Is Now the Time to Buy?_2
          การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ USOIL เผยให้เห็นตลาดที่มีความเสถียรและมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยมีราคาอยู่ที่ 85.28 ดอลลาร์ จุดกลับตัวที่สำคัญตั้งไว้ที่ 85.89 ดอลลาร์ ระดับแนวต้านอยู่ที่ $87.47, $88.53 และ $89.61 ซึ่งบ่งชี้ถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น
          แนวรับอยู่ที่ 84.58 ดอลลาร์, 83.57 ดอลลาร์ และ 82.54 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งบอกว่าราคามีเสถียรภาพที่ใด EMA 50 วันที่ $85.00 และ EMA 200 วันที่ $81.55 ให้การสนับสนุนขั้นพื้นฐาน
          การปรากฏของแท่งเทียน Doji บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจของตลาด แต่การรักษาให้อยู่เหนือ EMA ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ อย่างไรก็ตาม USOIL ยังคงเป็นตลาดหมีที่ต่ำกว่า 85.90 ดอลลาร์ โดยที่การทะลุเหนือราคาอาจนำไปสู่โมเมนตัมขาขึ้น

          พยากรณ์ราคาน้ำมันเบรนท์

          Natural Gas and Oil Forecast: Oil Corrects; Is Now the Time to Buy?_3
          UKOIL ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 89.48 ดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อย 0.04% จุดกลับตัวอยู่ที่ 89.60 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านทันทีที่ 90.87 ดอลลาร์ 91.90 ดอลลาร์ และ 92.89 ดอลลาร์ หาก UKOIL ทะลุสิ่งเหล่านี้ ก็อาจบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นต่อไป
          ระดับแนวรับกำหนดไว้ที่ 87.89 ดอลลาร์, 86.37 ดอลลาร์ และ 85.18 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเกิดการดีดตัวขึ้นได้ EMA 50 วันที่ $89.09 และ EMA 200 วันที่ $85.84 ให้บริบทเพิ่มเติม ซึ่งบ่งบอกถึงตลาดที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ
          แนวโน้มในปัจจุบันมีภาวะกระทิงเหนือระดับ 89.60 ดอลลาร์ แต่การลดลงต่ำกว่าเกณฑ์นี้อาจนำไปสู่การขายออกอย่างเห็นได้ชัด

          ที่มา: FX Empire

          หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดของวันนี้ โปรดไปที่ ปฏิทินเศรษฐกิจ
          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์

          พบน้ำมันในทะเลเหนือที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษเพื่อขุดเจาะเป็นครั้งแรก

          Owen Li

          โภคภัณฑ์

          EnQuest วางแผนที่จะนำแหล่งน้ำมัน 2 แห่งที่มีศักยภาพในการผลิตน้ำมันดิบ 500 ล้านบาร์เรลในทศวรรษต่อๆ ไป
          สถานที่หลายแห่งซึ่งมีแหล่งน้ำมันและก๊าซ Kraken ซึ่งอยู่ห่างจาก Shetland ไปทางตะวันออก 80 ไมล์ จะจุดชนวนการต่อสู้ทางการเมืองเหนือทะเลเหนือในอนาคต ซึ่งพรรคแรงงานขู่ว่าจะปิดกั้นการผลิตใหม่โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม
          การแทรกแซงตามแผนของพวกเขาทำให้เกิดคำเตือนจากบริษัทพลังงานว่าสหราชอาณาจักรมีความเสี่ยงที่จะตัดแหล่งพลังงานของตนเองก่อนที่จะมีแหล่งพลังงานทดแทน
          “คลัสเตอร์ Kraken” ที่เกิดขึ้นจะมีปริมาณสำรองรวมกันมากกว่า Rosebank หรือ Cambo ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการโต้เถียงทางตะวันตกของ Shetland ซึ่งดึงดูดฟันเฟืองจากนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม Cambo ถูกค้นพบในปี 2545 โดยมีการขุดค้นที่ Rosebank เกิดขึ้นอีกสองปีหลังจากนั้น
          Rosebank ซึ่งคาดว่าจะผลิตน้ำมันได้ 350 ล้านบาร์เรล ได้รับใบอนุญาตการผลิตเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังจากการโต้เถียงทางการเมืองเป็นเวลาหลายเดือน Cambo ซึ่งมีน้ำมัน 170 ล้านบาร์เรล อยู่ในบริเวณขอบรกมาตั้งแต่ปี 2564 เมื่อเชลล์ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานถอนตัวออกจากโครงการเนื่องจากฟันเฟืองสีเขียว
          มันเกิดขึ้นเมื่อพรรคแรงงานวางแผนบุกโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของสหราชอาณาจักรมูลค่า 11 พันล้านปอนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอเพื่อเพิ่มและขยายเวลาภาษีโชคลาภ โดยกองทุนจะลงทุนใน "พลังงานสะอาดเพื่อลดค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัว"
          พรรคยังได้เสนอที่จะห้ามใบอนุญาตขุดเจาะน้ำมันและก๊าซใหม่
          บริษัทพลังงานอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรงในการลดการผลิตน้ำมันและก๊าซ และเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ในขณะที่รัฐบาลเร่งแข่งขันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์
          วาเอล สวรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเชลล์ เตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่าโลกกำลังเสี่ยงต่อการขาดแคลนพลังงาน เว้นแต่จะใช้เงินลงทุนมากขึ้นในการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ
          สถานที่ใหม่สองแห่งของ EnQuest คือ Bressay และ Bentley นั้นอยู่ใกล้กับ Kraken มากจนสามารถเชื่อมต่อกับระบบการผลิตเดียวกันได้ โดยมีพื้นฐานอยู่บนเรือขนาดยักษ์ที่ทำหน้าที่เป็นแท่นขุดเจาะน้ำมันลอยน้ำสำหรับแหล่ง Kraken
          EnQuest กล่าวว่า Bressay เป็น "แหล่งน้ำมันที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไหล่ทวีปของสหราชอาณาจักร" โดยมีสิ่งที่เรียกว่า oil-in-place ซึ่งคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 600 ล้านถึงหนึ่งพันล้านบาร์เรล
          Oil-in-place วัดปริมาณน้ำมันทั้งหมดในอ่างเก็บน้ำ แต่ปริมาณที่สกัดได้จาก Bressay น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาร์เรล
          เบนท์ลีย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันแห่งที่สองในบริเวณใกล้เคียง คิดว่ามีขนาดใหญ่กว่า สามารถผลิตได้มากกว่า 300 ล้านบาร์เรล ซึ่งเทียบเท่ากับโรสแบงค์
          จำนวนเงินดังกล่าวเป็นส่วนเพิ่มเติมจาก 137 ล้านบาร์เรลที่ถูกสกัดจากแหล่งคราเคนดั้งเดิม หมายความว่าคลัสเตอร์สามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่า 700 ล้านบาร์เรล
          โฆษกของ Offshore Energies UK ซึ่งเป็นหน่วยงานการค้าอุตสาหกรรมกล่าวว่า "การลงทุนอย่างต่อเนื่องในโอกาสด้านพลังงานของสหราชอาณาจักร รวมถึงโครงการน้ำมัน มีความจำเป็นเพื่อให้มั่นใจในความมั่นคงในการจัดหาพลังงานของสหราชอาณาจักร สนับสนุนงานหลายแสนตำแหน่ง และมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร"
          อย่างไรก็ตาม เป็นที่เชื่อกันว่าน้ำมันเกือบทั้งหมดมีแนวโน้มที่จะถูกส่งออก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแหล่ง Kraken ไม่ได้เชื่อมโยงกับท่อส่งน้ำมัน ซึ่งหมายความว่าน้ำมันของมันมีแนวโน้มที่จะถูกรวบรวมทางเรือและนำไปที่โรงกลั่นแห่งใดก็ตามที่ซื้อมัน
          หมายความว่าประโยชน์หลักสำหรับสหราชอาณาจักรจะมาจากภาษีที่ EnQuest จ่าย ภาษีโชคลาภที่กำหนดโดยนายกรัฐมนตรี เจเรมี ฮันต์ ปัจจุบันอยู่ที่ 75% ของกำไร
          Craig Baxter จาก EnQuest กล่าวว่า “EnQuest ยังคงสำรวจวิธีในการพัฒนาการพัฒนา Bressay และ Bentley ตามลำดับ
          “EnQuest มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในสหราชอาณาจักร และการพัฒนาภาคสนามใดๆ ในอนาคตจะดำเนินการให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ EnQuest ที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี 2583”
          นาย Baxter เสริมว่าก๊าซที่สกัดจากแหล่ง Bressay ในตอนแรกจะถูกนำมาใช้เป็นพลังงานให้กับการดำเนินงานของ Kraken แทนที่เชื้อเพลิงดีเซลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
          เขากล่าวว่า: "สิ่งนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซของ Kraken ได้อย่างมาก โดยการแทนที่น้ำมันดีเซลที่ใช้ในการปฏิบัติการด้านพลังงานในปัจจุบัน"
          โฆษกกระทรวงความมั่นคงด้านพลังงานและ Net Zero กล่าวว่า "ดังที่ข้อมูลจากคณะกรรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอิสระแสดงให้เห็นว่า เรายังคงต้องการน้ำมันและก๊าซเป็นเวลาหลายทศวรรษต่อจากนี้ แม้ว่าเราจะไปถึงระดับสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ก็ตาม
          “นั่นคือเหตุผลที่เราสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของสหราชอาณาจักรด้วยการออกใบอนุญาตประจำปี ซึ่งสนับสนุนงานประมาณ 200,000 ตำแหน่ง สร้างรายได้จากภาษีนับพันล้านเพื่อเป็นทุนในการให้บริการสาธารณะและสนับสนุนค่าครองชีพ และรักษาทักษะและความเชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงสีเขียว .
          “แม้จะมีใบอนุญาตน้ำมันและก๊าซใหม่ เราก็ชัดเจนว่าการผลิตในสหราชอาณาจักรจะลดลงอย่างมีการจัดการ โดยคาดการณ์ไว้ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และจะไม่ทำให้เราเป็นผู้ส่งออกสุทธิหรือเพิ่มการปล่อยก๊าซคาร์บอนเกินกว่างบประมาณคาร์บอนที่มีผลผูกพันตามกฎหมายของเรา”

          ที่มา: เดอะเทเลกราฟ

          คำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบในการลงทุน
          ตลาดมีความเสี่ยง การลงทุนจำเป็นต้องระมัดระวัง เนื้อหาของบทความนี้มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนพิเศษ สถานะทางการเงินหรืออื่นๆของบุคคล ลงทุนตามนั้น ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงของคุณเอง
          รายการโปรด
          แชร์
          FastBull
          ลิขสิทธิ์ © 2025 FastBull Ltd

          728 RM B 7/F GEE LOK IND BLDG NO 34 HUNG TO RD KWUN TONG KLN HONG KONG

          TelegramInstagramTwitterfacebooklinkedin
          App Store Google Play Google Play
          ผลิตภัณฑ์
          กราฟ

          แชท

          Q&A กับผู้เชี่ยวชาญ
          ตัวกรอง
          ปฏิทินเศรษฐกิจ
          ข้อมูล
          เครื่องมือ
          สมาชิก
          ฟีเจอร์
          ฟังก์ชั่น
          ตลาด
          ธุรกรรมคัดลอก
          สัญญาณล่าสุด
          การแข่งขัน
          ข่าวสาร
          การวิเคราะห์
          24x7
          คอลัมน์
          แหล่งเรียนรู้
          บริษัท
          รับสมัครงาน
          เกี่ยวกับเรา
          ติดต่อเรา
          การลงโฆษณา
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          ข้อเสนอแนะ
          ข้อตกลงผู้ใช้
          นโยบายความเป็นส่วนตัว
          สำหรับธุรกิจ

          ไวท์เลเบล

          Data API

          ปลั๊กอินเว็บไซต์

          เครื่องมือออกแบบโปสเตอร์

          โครงการพันธมิตร

          การเปิดเผยความเสี่ยง

          ความเสี่ยงของการสูญเสียในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น FX สินค้าโภคภัณฑ์ ฟิวเจอร์ส พันธบัตร ETFs หรือเงินดิจิทัลอาจมีมาก คุณอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดที่คุณฝากไว้กับโบรกเกอร์ของคุณ ดังนั้น คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการซื้อขายดังกล่าวเหมาะสมกับคุณหรือไม่ในสถานการณ์และทรัพยากรทางการเงินของคุณ

          ไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตัวเองหรือปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินของคุณ เนื้อหาเว็บของเราอาจไม่เหมาะกับคุณเนื่องจากเราไม่ทราบเงื่อนไขทางการเงินและความต้องการในการลงทุนของคุณ ข้อมูลทางการเงินของเราอาจมีความล่าช้าหรือมีความไม่ถูกต้อง ดังนั้นคุณควรรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจซื้อขายและการลงทุนของคุณ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียเงินทุนของคุณ

          หากไม่ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถคัดลอกกราฟิก ข้อความ หรือเครื่องหมายการค้าของเว็บไซต์ได้ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาในเนื้อหาหรือข้อมูลที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้เป็นของผู้ให้บริการและผู้ค้าแลกเปลี่ยน

          ไม่ได้ล็อกอิน

          เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

          สมาชิก FastBull

          ยังไม่ได้เปิด

          สมัคร

          มาเป็นผู้ให้สัญญาณ
          ศูนย์ช่วยเหลือ
          บริการลูกค้า
          โหมดมืด
          สีขึ้นและลง

          เข้าสู่ระบบ

          ลงทะเบียน

          แถบข้าง
          เลย์เอาท์
          เต็มหน้าจอ
          ตั้งค่าเริ่มต้นเป็นกราฟ
          หน้ากราฟจะเปิดขึ้นตามค่าเริ่มต้นเมื่อคุณเข้า fastbull.com